โชคดีลาภดีวาสนาดีที่พบพระพุทธศาสนา : หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป

 จำปาพร  

 หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป
วัดโพธิสมภรณ์
อ.เมือง จ.อุดรธานี


กุสลาธมฺมา แปลว่า มีปัญญา ผู้มีปัญญานั่นล่ะละความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้เบาบางห่างออกจากใจได้ ผู้มีปัญญานั้นให้ทานได้ ผู้มีปัญญารักษาศีลได้ ผู้มีปัญญาน่ะสร้างบุญสร้างกุศล ไหว้พระสวดมนต์นั่งสมาธิภาวนา ใจสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิได้ นี่ล่ะแปลว่า สวดกุสลาธมฺมา ไม่ใช่ว่า ตายแล้วก็มนต์พระมาสวด บ่มีหนทางหรอก ถ้ามันได้อย่างนั้นก็พระพุทธเจ้าเพิ่นสวดให้เราไปสวรรค์ พวกเราไปสวรรค์นิพพานแล้ว บ่ได้อยู่หรอก

พระพุทธเจ้านั้นเป็น “มหากรุณาธิคุณ” พระองค์มีเมตตา ปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ให้พ้นทุกข์ภัยในวัฏสงสาร หากถ้าพระองค์สวดให้ไปสวรรค์นิพพานได้ก็มันก็ไม่มีปัญหา แต่มันไม่ได้ สวดให้ไม่ได้ เราต้องสวดเอาเอง เนี่ยเราสวดเอาเอง สวดเอาใครเอามันน่ะ ใครหมั่นสวดมันก็หมั่นได้ ก็อย่างว่า มันหามันได้ เพิ่นว่า หมั่นหาก็หมั่นได้ มันได้ก็มันรวย เพิ่นว่า มันหาก็มันได้ มันได้ก็มันรวย อันนี้ถ้าทางไม่ดีก็ทั้ง หมั่นเจ็บหมั่นไข้มันก็ใกล้ความตายทุกวันล่ะ หมั่นเจ็บหมั่นไข้ใกล้ความตายทุกวัน เรียกว่า หมั่นเจ็บหมั่นไข้ก็ตายล่ะ ไข้บ่อยๆก็เจ็บบ่อยๆก็ตายนั่นล่ะ

เพราะเหตุนั้นในทางพุทธศาสนาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือว่าในยุคนี้ ในยุคนี้ปัจจุบันนี้ที่เราเกิดมาในยุคนี้แล้วก็มีโชคดีวาสนาดี มีลาภดีโชคดีวาสนาดี..ดีอย่างไร คือดีว่า เกิดมาได้พบปะธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้มาพบปะครูบาอาจารย์ผู้ท่านชี้ช่องบอกทางให้ เป็นตัวนำ เป็นผู้ที่ชี้ช่องบอกทางว่า ศีลเป็นอย่างนี้ ธรรมเป็นอย่างนี้ ภาวนาเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ได้มีความเชื่อความเลื่อมใส ปฏิบัติตามด้วย นี่ชื่อว่ามีโชคดี ลาภดี วาสนาดี ถ้าเราไม่มีโชควาสนาดีก็ไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นจึงว่า ถ้าเกิดมาในยุคบางยุคนั่นบ่มีครูสอน เกิดมาเหมือนกันแต่บ่มีผู้แนะผู้นำ ผู้สอน ผู้ชี้ช่องบอกทางให้ ก็ไม่รู้เรื่อง ดันศีลอยู่นั่นแหละ





ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
“คุณธรรมเทวดา” 

5,618







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย