ราชสีห์ ๘ พี่น้อง (สิคาลชาดก)
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เมืองเวสาลี ทรงปรารถลูกชายของช่างตัดผม ชาวเมืองเวสาลีคนหนึ่ง กลั้นใจตายเพราะไม่สมหวังในความรัก ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นราชสีห์ มีน้องชาย ๖ ตัวและน้องสาว ๑ ตัว อาศัยอยู่ในถ้ำทองแห่งหนึ่งในป่าหิมพานต์ในที่ไม่ไกลจากถ้ำทองนั้นมีถ้ำแก้วผลึกอยู่ถ้ำหนึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง ต่อมาเมื่อพ่อแม่ของราชสีห์ได้ตายลง ราชสีห์ผู้ที่พี่จึงให้ราชสีห์น้องสาวอยู่เฝ้าถ้ำส่วนพวกตนออกหาอาหาร เมื่อได้อาหารแล้วก็จะพากันกินส่วนหนึ่ง นำอาหารอีกส่วนหนึ่งมามอบให้น้องสาวที่ถ้ำเป็นลักษณะเช่นนี้ประจำ
อยู่มาวันหหนึ่ง เมื่อราชสีห์ผู้พี่ทั้ง ๗ ตัวออกไปหาอาหารแล้วสุนัขจิ้งจอกที่อาศัยอยู่ถ้ำแก้วผลึกได้มาที่ถ้ำทองพร้อมกับพูดเกี้ยวพาราสีนางราชสีห์สาวว่า "แม่ราชสีห์น้อย เรามี ๔ เท้า เจ้าก็มี ๔ เท้า เจ้าจงเป็นภรรยาของเราเสียเถิด" นางราชสีห์สาวได้ฟังคำของสุนัขจิ้งจอกพูดเช่นนั้นก็คิดน้อยใจว่า "เราเป็นสัตว์ตระกูลสูง สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ตระกูลต่ำ มันพูดไม่ไพเราะเลย เราจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม จะกลั้นใจตายเสียดีกว่า" แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า "รอให้พวกพี่กลับมาก่อนดีกว่า เล่าให้พวกเขาฟังแล้วค่อยตาย" จึงไม่พูดตอบอะไร เมื่อไม่ได้รับคำตอบสุนัขจิ้งจอกก็เดินกลับถ้ำของตนไป
ราชสีห์หนุ่มทั้ง ๖ ตัวกลับมาถึงถ้ำก่อน เมื่อได้รับฟังคำบอกเล่าจากน้องสาวแล้วโกรธมาก ถามถึงที่อยู่ของสุนัขจิ้งจอกนางราชสีห์เพราะไม่เคยออกไปจากถ้ำสักครั้งเข้าใจว่าสุนัขจิ้งจอกอยู่กลางแจ้งจึงบอกไปว่า "มันอยู่กลางแจ้งที่เชิงเขาละพี่" ราชสีห์เหล่านั้นด้วยอารมณ์โรธจึงวิ่งไปหาสุนัขจิ้งจอกด้วยความเร็วหวังจะขย้ำให้ตายครั้งเดียว ได้ชนเข้ากับถ้ำผลึกนอนตายอยู่ที่ นั่นเองทั้ง ๖ ตัว
ตกเย็นเมื่อราชสีห์โพธิสัตว์กลับมาถึงถ้ำทราบเหตุการณ์ นั้นแล้ว พอน้องสาวบอกว่าสุนัขจิ้งจอกอยู่กลางแจ้งที่เชิงเขาเท่านั้นก็คิดได้ว่า "พวกสุนัขจิ้งจอกไม่เคยอาศัยอยู่กลางแจ้ง มันต้องนอนอยู่ในถ้ำแก้วผลึกแน่นอน" เดินไปที่เชิงเขาเห็นราชสีห์น้องชายทั้ง ๖ ตัวนอนตายอยู่ จึงพูดขึ้นว่า "พวกนี้คงจะไม่รู้ว่าสุนขจิง้จอกนอนอยู่ในถ้ำแก้วผลึก เพราะไม่ทันใช้ปัญญาพิจารณาตรวจสอบจึงวิ่งชนถ้ำตายเสียหมด การงานของผู้ไม่พิจารณาแล้วรีบทำย่อมเป็นอย่างนี้กันทุกคนแหละ" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"การงานเหล่านั้นย่อมเผาบุคคลผู้มิได้พิจารณาแล้วรีบร้อนจะทำให้เสร็จ เหมือนกับขอร้อนที่บุคคลไม่พิจารณาก่อนแล้ว ใส่เข้าไปในปาก"
เมื่อกล่าวจบก็ขึ้นไปที่ปากถ้ำ แก้วผลึกคำรามเสียงดังขึ้น ๓ ครั้ง ทำให้สุนัขจิ้งจอกที่นอนหวาดกลัวอยู่ในถ้ำนั้นหัวใจวายตายไปเอง แล้วกลับลงมาฝังพวกน้องชายไว้ที่แห่งหนึ่ง กลับไปถ้ำเล่าเรื่องราวให้น้องสาวฟัง แล้วพูดปลอบใจน้องสาวให้หายความน้อยใจ ได้อาศัยอยู่ที่นั้นจนตราบสิ้นชีวิต
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : จะทำกิจการงานใด ๆ อย่าได้รีบด่วนตัดสินใจ พึงพิจารณาอย่างรอบคอบ หรือปรึกษาท่านผู้รู้เสียก่อนค่อนลงมือกระทำ
ที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๒ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม