กรรม

  หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๒ : หนี้ชีวิต
  โ ด ย : ท.เลียงพิบูลย์

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงซึ่ง ท.เลียงพิบูลย์ ได้เคยรวบรวมเอาไว้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไม่นานนัก

เป็นเรื่องราวของผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่ง ชื่อ "กำนันแต้ม" แต่เดิมกำนันแต้มเป็นคนที่ฉลาดแกมโกงหากินกับการรับจำนองที่ที่มีคนเอาไปจำนองเนื่องจากเดือดร้อนเรื่องการเงินและในไม่ช้าที่ทางเหล่านั้นก็จะตกไปเป็นของเขาหมด และเขาก็จะจัดการขับไล่เจ้าของเดิมออกไปโดยไม่มีความเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าใครถูกไล่แล้วไม่ไปก็จะถูกอิทธิพลมืดคุกคามจนเป็นที่หวาดเกรงของคนในย่านนั้น

วันหนึ่งกำนันแต้มได้โดยสารเรือเมล์จะกลับบ้านระหว่างทางเกิดพายุใหญ่ทำให้เรือล่มกำนันแต้มลอยคออยู่กลางน้ำโดยอาศัยเกาะท่อนไม้ท่อนหนึ่งพยุงตัวเอาไว้และแล้วไม่นานนัก...แรงก็ค่อยๆ หมด ท่อนไม้ก็ค่อยๆ หลุดออกไปจากมือ ในขณะที่แกกำลังจะจมน้ำนั้น ก็พอดีมีสองพ่อลูกพายเรือผ่านไปเห็นและได้ช่วยชีวิตไว้ทัน สองพ่อลูกที่ว่านั้นก็คือคนที่กำนันแต้มเคยริบบ้านช่องไร่นาและขับไล่เขาออกไปนั่นเอง แต่สองพ่อลูกหาได้ผูกใจเจ็บต่อกำนันแต้มไม่นอกจากจะช่วยชีวิตแล้วแถมยังให้ข้าวปลาอาหารและที่พักแก่กำนันแต้มอีกด้วย ทำให้กำนันแต้มรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของสองพ่อลูกเป็นยิ่งนัก "ถึงแม้เขาจะจนเงินแต่เขาก็ไม่จนน้ำใจ...เราเสียอีกรวยเงิน แต่แล้งน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน"

นับจากนั้นนิสัยของกำนันแต้มก็ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเหมือนเป็นคนละคนจากที่เคยเป็นคนเค็มเห็นแก่ได้ไม่เคยเห็นใจใคร ก็กลับเป็นคนมีเมตตาช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อนครอบครัวใดที่กำนันแต้มเคยทำให้เขาเดือดร้อนมาก่อน ก็กลับให้การช่วยเหลือทำให้ครอบครัวเหล่านั้นได้รับความสุขสบายตามควรแก่อัตภาพด้วยเหตุนี้ "กำนันแต้ม" จึงกลายเป็นที่รักของทุกๆ คนในหมู่บ้าน แต่อยู่ต่อมากำนันแต้มก็ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล สองพ่อลูกที่เคยช่วยชีวิตกำนันแต้มเอาไว้ เมื่อรู้ข่าวก็จะไปเยี่ยมในตอนเช้าวันนั้น ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจะก้าวขึ้นรถโดยสาร ก็ได้เห็นกำนันแต้มนั่งอยู่ในรถโดยสารอีกคันหนึ่งซึ่งวิ่งสวนทางมา พอมาถึงตรงสองพ่อลูกกำนันแต้มก็ชะโงกหน้าออกมาแล้วโบกไม้โบกมือ คล้ายจะบอกว่าไม่ต้องไปสองพ่อลูกคิดว่ากำนันแต้มหายป่วยแล้วก็จึงลงจากรถโดยสารคันนั้น

ตอนบ่ายจึงได้ทราบข่าวว่ารถโดยสารคันที่จะขึ้นไปนั้นได้ประสบอุบัติเหตุมีผู้โดยสารเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากโชคดีที่สองพ่อลูกผู้มีใจเมตตาไม่ได้ไปกับรถคันนั้นด้วย สองพ่อลูกรู้สึกเป็นกำนันแต้มที่มาโบกไม้โบกมือห้ามเอาไว้ไม่ให้ไปกับรถคันนั้นกำลังคิดที่จะไปขอบคุณกำนันแต้มที่บ้านแต่ก้ต้องสะดุ้งเมื่อลูกสาวของกำนันแต้มมาบอกกับสองพ่อลูกว่า "กำนันแต้มได้ถึงแก่กรรมแล้วเมื่อเช้านี้เอง" นั่นแสดงว่ากำนันแต้มที่สองพ่อลูกเห็นเมื่อเช้านั่นก็คงเป็นวิญญาณของกำนันแต้มที่มาบอกเตือนสองพ่อลูกล่วงหน้าคนใจดีมีเมตตาอย่างสองพ่อลูก

ขนาดผียังคุ้มครองให้แคล้วคลาดปราศจากภัยสาธุ...สมควรแล้ว สำหรับกรรมดีที่สองพ่อลูกได้กระทำ






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย