โทษข้อที่ ๖ เหล้าบั่นทอนกำลังปัญญา
ยังมีผู้เข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่งว่า เหล้าทำให้ปัญญาเปรื่องปราชญ์ หัวคิดแล่น บางคนอ้าง
ตัวอย่าง สุนทรภู่ กวีเอกของไทย ว่าแต่งกลอนได้ดี ก็เพราะเหล้า มีชื่อเสียงเพราะเหล้า ซึ่ง
เป็นความเข้าใจ และเป็การอ้างที่ผิดจากความจริง ความจริง สติปัญญาของคน ได้มาจาก
การศึกษา คนกินเหล้ามาก เหล้าทำให้ปัญญาทึบ ถ้าเขาไม่ได้กินเหล้า สมองจะมึนชา แต่ถ้า
กินเหล้า เหล้าจะเข้า ไปกระตุ้นเส้นประสาท ให้ความคิดแจ่มใสชั่วประเดี๋ยวหนึ่ง แล้วก็กลับ
ทรุดหนักลงไปอีก คนติดสุราแล้ว เลยคว้าเอาตรงที่เหล้ากระตุ้นประสาทนั้น ว่าเหล้าทำให้
ปัญญาเปรื่องปราชญ์ เป็นการคิดถึงผลได้เพียง หยิบมือเดียว แต่ที่เสีย ไปตั้งกอง ไม่พูดถึง
การที่อ้างสุนทรภู่เป็นตัวอย่างว่า แต่งกลอนได้ดีเพราะเหล้า และมีชื่อเสียงเพราะเหล้านั้นผิด
ถนัด
อ่านประวัติสุนทรภู่ดูเถอะ ฉบับของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ และฉบับของ กรมพระยา
ดำรงราชานุภาพ แสดงไว้ชัดเจนว่า สุนทรภู่เป็นนักแต่งกลอนก่อนกินเหล้า ไม่ใช่กินแล้วจึง
แต่งเป็นจะว่าสุนทรภู่ได้ปัญญามาจากเหล้าได้อย่างไร และเหล้าไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของ
สุนทรภู่ดีขึ้นเลย ตรงข้าม เหล้าทำให้สุนทรภู่ลำบากยากเข็ญมาก แล้วทำให้สุนทรภู่ต้องติด
คุกติดตะราง เหล้าทำให้สุนทรภู่ถูกเมียทิ้งและเหล้าทำให้สุนทรภู่ ถูกโหรเรียกว่า
"อาลักษณ์ขี้เมา"
รวมความว่า ถ้าเกียรติยศของสุนทรภู่จะแจ่มใสเหมือนดวงอาทิตย์ เหล้าก็เป็นผู้สร้างจุดดำ
ขึ้นในดวงอาทิตย์นั้น ข้อนี้ สุนทรภู่เองรู้ดี จึงแต่งกลอนสาปเหล้าว่า "น้ำนรก"
กลอนนั้นว่า
"ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย"
และเมื่อสำนึกตัวได้แล้ว สุนทรภู่ก็เลิกดื่มเหล้า แล้วเขียนกลอนไว้ว่า
"ถึงนครชัยศรีมีโรงเหล้า เป็นของเมาตัดขาดไม่ปรารถนา "ถ้าเหล้าเพิ่มสติปัญญาให้คนจริง
เราคิดง่ายๆก็แล้วกัน รัฐบาลคงเปิดให้คนต้มเหล้ากินอย่างเสรีมานานแล้ว พลเมืองจะได้ฉลาด
ไม่ต้องตั้งกระทรวงศึกษาธิการให้เสียเงินเปล่าๆ และพระพุทธเจ้าคงไม่ห้ามการกินเหล้าแน่
การหาเรื่องโฆษณา ว่าการกินเหล้า ดีอย่างนั้น อย่างนี้ เป็นเรื่องของคนดื่มเหล้าจนติด แล้ว
โฆษณาปลอบใจตัวเอง และในโอกาสเดียวกัน ก็หาเพื่อน หรือหาเจ้ามือไว้ ฝ่ายคนขายเหล้า
ก็กระพือใหญ่ เพื่อให้คนนิยมกินเหล้ามากๆ ตัวจะได้รวย"