ค้นหาในเว็บไซต์ :

วิปัสสนา

เรื่องที่ ๓๙ : ๑๑ วันธรรมบรรยาย ( ตอนจบ )
โดย : ท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า


เราจะทำลายลูกโซ่ของความทุกข์ได้อย่างไร ?

กระแสของชีวิต ของจิต และกาย หรือนามและรูป ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วการฆ่าตัวตาย มิใช่ทาง แก้ปัญหา แต่มันจะยิ่งก่อความทุกข์ใหม่ขึ้นมาอีกคนเราไม่สามารถทำลายสฬายตนะ หรือ ประสาทสัมผัสเหล่านี้ได้ โดยไม่ทำลายตนเอง ตราบใดที่ประสาทสัมผัสเหล่านี้ยังมีอยู่ ผัสสะ หรือการสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ก็จะต้องมีขึ้น และเมื่อใดก็ตาม ที่มีการสัมผัสเกิดขึ้นเวทนาหรือ ความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ย่อมจะต้องเกิดขึ้นภายในกายของเรา ณ.ที่นี้ ที่จุดเชื่อมโยงของ ความรู้สึกทางกาย หรือเวทนา เราจะสามารถทำลายลูกโซ่นี้ได้ ในอดีต ความรู้สึกทางกายทุก ชนิด ที่เกิดขึ้น ทำให้เรามีการปรุงแต่งว่า ชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งจะพัฒนาขึ้นมาเป็น โลภะ หรือ โทสะ อันเป็นความทุกข์อันยิ่งใหญ่ แต่ในขณะนี้ แทนที่เราจะปรุงแต่งต่อเวทนา หรือความรู้สึก ทางกาย เรากำลังเรียนรู้ที่จะเฝ้าดูมัน อย่างมีอุเบกขา ด้วยความเข้าใจว่า "สิ่งนี้ก็จะต้องเปลี่ยน แปลงไปเช่นกัน" โดยวิธีนี้ เวทนา หรือความรู้สึกทางกาย จะก่อให้เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจ ในความไม่เที่ยงแท้ หรืออนิจจัง เราก็จะหยุดกงล้อแห่งความทุกข์ และเริ่มหมุนมันใหม่ไปใน ทางตรงกันข้าม คือมุ่งไปสู่ความหลุดพ้น

ขณะใดก็ตาม ที่คนเราไม่ได้สร้างสังขาร หรือการปรุงแต่งขึ้นมาใหม่สังขารเก่าที่มีอยู่เดิม ก็จะผุดขึ้นมาสู่พื้นผิวของจิต ขณะนั้นเวทนา หรือความรู้สึกทางกายก็จะเกิดขึ้น หากเรายัง มีอุเบกขาอยู่ สังขารนั้นก็จะดับไป และสังขาร เก่าๆอย่างอื่น ก็จะผุดขึ้นมาแทนที่อีก ถ้าเรา ยังคงรักษาความเป็นอุเบกขา ต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้อีก สังขารเก่าๆที่ยังเหลืออยู่ก็จะผุดขึ้น มา แล้วก็ดับไป เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่หากเรามีการปรุง แต่งต่อความรู้สึกทาง กาย เพราะความไม่รู้หรืออวิชชา เราก็จะสร้าง สังขาร หรือการปรุงแต่งใหม่เพิ่มเข้าไปอีก เป็น การเพิ่มความทุกข์ให้มาก ขึ้น แต่ถ้าเราได้พัฒนาปัญญาของเรา และไม่มีการปรุงแต่งต่อเวทนา ต่างๆ ที่เกิดขึ้น สังขารก็จะถูกขจัดไปเรื่อยๆ ความทุกข์ก็จะถูกขจัดไปด้วยเช่นกัน เส้นทาง ตลอดสายนี้ เป็นเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ด้วยการปฏิบัติ

ท่านจะได้พบว่า ท่านได้หยุดสร้างปมใหม่ๆขึ้นมาในจิต และปมเก่าๆก็จะคลายออกไปเอง ท่านจะก้าวหน้า ต่อไปเรื่อยๆ จนถึงระดับที่สังขาร หรือการปรุงแต่งอันเป็นเชื้อ ที่นำไปสู่การ เกิดใหม่ และนำไปสู่ความทุกข์ ได้ถูกขจัดออกไปให้หมดอย่างสิ้นเชิง เมื่อนั้นท่านจะเข้าสู่ สภาวะของความหลุดพ้น หรือสภาวะนิพพาน ในการเริ่มต้นปฏิบัติ ไม่จำเป็นว่า เราควรจะเชื่อ ในเรื่องชาติก่อนและชาติหน้า การปฏิบัติวิปัสสนา นั้นถือว่า ปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชาติ ปัจจุบัน หากเรายังคงสร้างสังขาร และสร้างความทุกข์ให้กับตนเองอยู่ เราก็จะต้องหยุดนิสัย อันนี้ทันที เพื่อปลด ปล่อยตนเองให้พ้นจากความทุกข์

หากท่านได้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่ง ท่านก็จะพูดได้ว่า ท่านได้ขจัดการปรุงแต่ง หรือ สังขารเก่าๆทั้งหมดออกไปแล้ว และได้หยุดสร้างสังขารใหม่ๆ ขึ้นมาอีก ซึ่งเท่ากับว่าท่านได้ ช่วยให้ตนเองหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งสิ้นทั้งปวง





จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย