วัดตูม พระนครศรีอยุธยา





วัดตูม พระนครศรีอยุธยา พระอารามหลวง ชั้นตรี สังกัดคณะสงฆ์ : มหานิกาย
วันตั้งวัด : พ.ศ. 1890
วันรับวิสุงคามสีมา : พ.ศ. 1891


วัดตูม เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยใช้เป็นที่สำหรับลงเครื่องพิชัยสงคราม วัดตูมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาและได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงในรัชกาลที่ 4

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินหลายครั้ง โดยเฉพาะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้มีการทำพิธีลงยันต์และอักขระลงในธงไชยพระครุฑพ่าห์เพื่อพระราชทานเป็นธงไชยเฉลิมพลแก่ทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ตั้งอยู่บริเวณริมคลองวัดตูม ถนนอยุธยา-อ่างทอง ห่างจากตัวเมืองอยุธยา ประมาณ 6-7 กิโลเมตร ในท้องที่ตำบลวัดตูม มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่เศษ

วัดพันปีกับเศียรพระพุทธรูปเปิดได้ คงเป็นจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของอารามหลวงชั้นตรีที่มีประวัติยาวนานก่อนราชธานีอยุธยา ถึงกับไม่พบหลักฐานการก่อสร้างใด ๆ ทั้งสิ้น สันนิษฐานเพียงว่าเป็นวัดสำคัญที่ใช้เป็นที่ลงเครื่องพิชัยสงคราม หากต้องกลายเป็นวัดเกาะนอกเมืองที่ถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 ประชาชนและพระสงฆ์องค์เจ้าต้องหลบลี้หนีหายกันไปหมดสิ้น

กระทั่งกลายเป็นวัดสำคัญอีกครั้งเมื่อสมัยตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีผู้ปฏิสังขรณ์วัดตูมขึ้นมาใหม่ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ส่วนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ารัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินที่วัดนี้หลายครั้ง

สิ่งหนึ่งที่ใครมาวัดนี้แล้วต้องไม่พลาดได้มาชมเป็นบุญตาคือ หลวงพ่อสุข พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่องปางมารวิชัย นามเดิมว่าหลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในหอพระพุทธรูปข้างหอสวดมนต์ด้านตะวันออก ไม่มีตำนานปรากฏว่าสร้างแต่สมัยใด หากเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลป์งดงามองค์หนึ่ง โดยทรงเครื่องแบบมหาจักรพรรดิ์ราชาธิวาส สวมมงกุฎมีกุณฑล ทับทรวงสังวาล พาหุรัดประดับด้วยเนาวรัตน์ ประทับนั่งขัดสมาธิแม้ในคราวกรุงแตกก็กลับรอดพ้นเพลิงผลาญและการทำลายจากข้าศึกมาได้ จึงเป็นพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง ผู้สูงอายุบางคนยังเล่าว่าเคยเห็นองค์พระพุทธรูปประดับด้วยเพชร พลอย ทับทิมตามพระอุระและพาหาพระอังสะทั้งสองข้างประดับด้วยอินทรธนู ซึ่งไม่พบเห็นในปัจจุบัน ความงดงามของหลวงพ่อสุขยังไม่เท่าความอัศจรรย์ที่ไม่เหมือนพระพุทธรูปใด ๆ ในประเทศไทย กล่าวคือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฏเปิดออกได้ และพระเกศมาลาก็ถอดออกได้เช่นกันแม้เมื่อปิดไว้ก็กลับแนบสนิทไร้ร่องรอย ที่สำคัญคือภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงจนเกือบถึงพระศอจะมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ดื่มกินได้ จึงมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อสุขมากมาย โดยจะเปิดเศียรพระทุกวันที่ 1 ของเดือน

ภายในวัดตูมยังมีสระน้ำข้างพระอุโบสถด้านตะวันตก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสระในการทำพิธีลงเครื่องพิชัยสงคราม เช่น ชุบพระแสงตลอดมา อาทิ เมื่อ พ.ศ. 2451 รัชกาลที่เสด็จยังวัดตูมเป็นหนสุดท้าย เพื่อทรงประกอบพิธีชุบพระแสงขรรค์ราชศัตรา มีราษฎรไปรอเฝ้าชมพระบารมีกันเต็มท้องน้ำ โดยพิธีการชุบพระแสงต้องนำผงฝุ่นที่จะนำมาทำเป็นเลขยันต์มาสวดพระพุทธมนต์ 7 วัน 7คืน แล้วจึงนำน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในพระเศียรของหลวงพ่อทองสุขมาละลายผงฝุ่นนั้น นำมาเขียนเป็นอักขระลงที่พระแสงดาบ ทิ้งไว้ให้แห้งก่อนนำเข้าเตาเผา แล้วชุบในสระจะปรากฎเป็นอักขระตัวนูนอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนจะล้างน้ำจากพระเศียรหลวงพ่อสุขอีกครั้งเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีศักดิ์สิทธิ์มาแต่โบราณ

ที่นี่เปิดให้นมัสการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

- สิ่งสำคัญคู่วัด -
• หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์ •



พระอุโบสถ



สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญภายในวัดตูม คือ "หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์" เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องปางมารวิชัย โดยมีลักษณะพิเศษ คือ บนพระเศียรขององค์พระสามารถเปิดออกและมีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลา เชื่อกันว่าเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคภัยให้หายได้ และผู้มีขอพรมักจะประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะในด้านอาชีพหน้าที่การงาน

พระพุทธรูปซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ พระเศียรตอนเหนือพระนลาฎ (หน้าผาก) เปิดออกได้และพระเกศมาลาถอดได้ ภายในพระเศียรเป็นบ่อกว้างลึกลงไปเกือบถึงพระศอ มีน้ำไหลซึมออกมาตลอดเวลาเหมือนหยาดเหงื่อ เป็นน้ำใสเย็นบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน สามารถรับประทานได้โดยปราศจากอันตรายใดๆ และไม่แห้งขาดหาย พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทรงเครื่อง ปางมารวิชัย นามเดิมของท่านคือ "หลวงพ่อทองสุขสัมฤทธิ์" เรียกกันเป็นสามัญว่า "หลวงพ่อสุข" หน้าตักกว้าง 87 เซนติเมตร สูง 1.50 เมตร สร้างสมัยใดไม่ปรากฏตำนาน เป็นพระทรงเครื่องแบบมหาจักรพรรดิ์ราชาอธิวาสสวมมงกุฎ มีกุณฑลทับทรวง สังวาลพาหุรัดประดับด้วยเนาวรัตน์ ประทับนั่งขัดสมาธิ พระพุทธรูปองค์นี้จะเปิดเศียรพระทุกวันที่ 1 ของเดือน



วิหารจตุรมุขยอดมรฑป



พระเจดีย์ วัดตูม



บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์


หลวงพ่อสุขสัมฤทธิ์




11,006







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย