วัดหงส์เป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเศรษฐีชาวจีนเป็นผู้สร้างด้วยแรงศรัทธา จึงเป็นวัดราษฏร์ ต่อมากรุงธนบุรีเป็นราชธานีวัดหงส์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นวัดหลวง ในสมัยนั้นวัดหงส์เป็นวัดที่รุ่งโรจน์มาก เป็นแหล่งใหม่ของสำนักสงฆ์ สามเณรจำนวนมาก และเป็นศูนย์การศึกษาที่เจริญเข้าขั้นมหาวิทยาลัย อยู่ในพระอุปถัมภ์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ สร้างศาลาการเปรียญพร้อมทั้งกุฏิ เสนาสนะทั่ววัด และทรงยกย่องให้เป็นวัดหลวงชั้นที่ 1
ความสำคัญของวัดหงส์ เป็นวัดที่สร้างขึ้นโดยเศรษฐีชาวจีนชื่อ “ หงส์ ” ต่อมาสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ทรงรับวัดนี้ไว้ในพระอุปถัมภ์ และสถาปนาวัดนี้ให้เป็นวัดหลวง เป็นวัดสำคัญทางการศึกษาพระพุทธศาสนา มีพระจำนวนมากจำพรรษา
{ พระอุโบสถ }
พระอุโบสถ เป็นอุโบสถขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของฝั่งธนบุรี (กว้าง 19.5 เมตร ยาว 42 เมตร) ประตูด้านนอกมีลวดลายปูนปั้นรูปหงส์และดอกไม้ ด้านในเป็นลวดลายสีแบบจีนปนฝรั่ง หน้าต่างด้านนอกกระจกสีน้ำเงินประดับลวดลายดอกไม้ปูนปั้นสีทองติดลูกกรงดัดรูปหงส์สวยงามมาก
{ ประตูด้านนอกมีลวดลายปูนปั้นรูปหงส์ }
{ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง }
ผนังในพระอุโบสถโดยรอบมีภาพจิตรกรรมฝาผนังบนแผ่นผ้าใบ เรื่องราวประวัติของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน บนภาพพระพุทธประวัติ มีภาพสีฝุ่นเทมเพอราในกรอบแก้วเล่าเรื่องราวของพระแก้วมรกต ผนังด้านหลังมีที่บรรจุอัฐิของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) และภรรยา
{ พระประธาน.ในพระอุโบสถ }
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะในสมัยอู่ทอง (เป็นปูนปั้นลงรักปิดทอง) ขนาดหน้าตักกว้าง 2.6 เมตร สูง 3.5 เมตร ไม่มีพระนามสันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา หน้าพระประธาน เป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์นวโลหะสีดำประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน ชื่อหลวงพ่อแสน เล่ากันว่าเชิญมาแต่เมืองเชียงแตงเมื่อปีมะเมีย พ.ศ. 2401
{ พระวิหาร }
{ พระพุทธรูปทองโบราณ }
พระพุทธรูปทองโบราณ เดิมนั้นองค์พระได้พอกด้วยปูนปั้น เมื่อทำการกะเทาะปูนออกจึงพบองค์พระเป็นทองเนื้อห้า โดยบริเวณฐานพระมีตัวอักษรสมัยอู่ทองจารึกอยู่
{ ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช }
{ สระน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ }