กว่าผมจะได้หย่อนก้นลงมานั่งพิมพ์ต้นฉบับเรื่องนี้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม เมื่อ ๕ ชั่วโมงก่อน ผมยังนั่งทำงานอยู่ที่บริษัท ก่อนจะรีบเก็บของเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณ เลิกงาน
ผมและตะวันที่ปลายฟ้ามีนัดกันที่จะไปเยี่ยมคน คนหนึ่ง ที่จังหวัด อ่างทอง ห่างจากที่ทำงาน (อยุธยา) ไปประมาณ ๔๐ กิโลเมตร แต่ห่างจากบ้านผม ๘๐ กม. และห่างจากที่พักของ ตะวันที่ปลายฟ้า ราว ๑๒๐ กม. เรารีบออกเดินทางพร้อมกับแผนที่ในมือ เพราะกลัวจะมืดเสียก่อน ไม่นานเราก็ไปถึงจุดกลับรถ และรีบตรวจสอบเส้นทาง โดยถามทางไปเรื่อย ๆ และโทรไปตามเบอร์ที่แจ้งไว้ พอใกล้ถึง ก็มีคนขับมอเตอร์ไซด์ มารับ
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงบ้านไม้ ใต้ถุน สูง คงจะกันน้ำท่วม คนที่มารับเราก็คือ พ่อของคนที่เราต้องการมาพบ เราพากันเดินไปที่ใต้ถุนบ้าน เจ้าตูบวิ่งมาต้อนรับอย่างเป็นมิตร ผมละสายตาจากเจ้าตูบ แล้วมองผ่านสูงขึ้นไป ที่บนแคร่ไม้ ร่างหญิงสาว ที่ไม่น่าเชื่อว่าเธออายุราว ๒๔ ปี เธอคือ “ชุติมา เฉลิมถ้อย” สาวโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค (บางปะอิน อยุธยา)
ชุติมา เป็นใคร ผมไม่รู้จักเธอหรอก และไม่เคยเกี่ยวข้องใด ๆ กับเธอทั้งสิ้น คงจะมีเพียงฐานะเดียวที่ดูจะห่างไกลแต่ใช้กันบ่อยเหลือเกินคือ “ฐานะเพื่อนร่วมโลก” ชุติมาป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก ระยะสุดท้าย เธอไม่กินอาหารมา ๒ อาทิตย์แล้ว ทำให้ร่างกายเธอทรุดลงมาก เธอพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ใครมา” “เก๋ไง” ตะวันที่ปลายฟ้าตอบ เธอยกมือไหว้ ในท่าที่นอนตะแคงอยู่ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก โดยมีพ่อซึ่งดูแลอย่างใกล้ชิด
“ชุติมา” เป็น พนักงานบริษัทเดียวกับตะวันที่ปลายฟ้า เธอเป็นคนขยันและนิสัยดี ก่อนหน้านี้ เธอไปผ่าตัดเนื้องอกในโพรงจมูก แต่ต่อมา มันก็ได้กลายเป็นเนื้อร้าย เกาะกินสังขารของเธอ ด้วยรายได้ที่น้อยนิด กระนั้น บริษัทฯ ที่จ้างเธอก็ยังจ่ายค่าแรงเธอทุก ๆ เดือน แม้เธอจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้นานกว่าครึ่งปีแล้ว ส่วนสามีของเธอนั้น โชคร้าย ต้องออกจากงานด้วยพิษเศรษฐกิจ และไปหางานรับจ้างก่อสร้างรายวันแถว ๆ นั้น
ผมไม่อาจมองสภาพของเธอได้นาน หลบหน้ามาคุยกับญาติ ๆ ที่รายล้อม พร้อมกับเด็กหญิงหน้าตาบ๊องแบ้ว และเด็กชายที่ดูจะเหนียมอาย เธอคือ แก้ม (น้องสาว) และ กานต์ (พี่ชาย) สองพี่น้อง วัย ๔ ขวบ และ ๕ ขวบ กว่าจะขอถ่ายรูปได้ พวกเขาอาจจะรับรู้ได้ว่าแม่เป็นอะไร แต่ไม่รู้หรอกว่าแม่จะอยู่กับพวกเขาได้นานขนาดไหน ตากับยายของแก้มและกานต์ มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าวโพดหวานขาย นอกจากนี้ก็ไม่มีรายได้อื่นอีก
ผมไม่อาจพูดหรือ ตั้งคำถามใด ๆ สำหรับหนูน้อยสองคนนี้ มากนัก จำต้องระวังปากระวังคำอย่างมาก ไม่กล้าถามเรื่องแม่ของพวกเขา และทั้งสองก็ยังดูไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าอย่างเรา แก้มและกานต์ ยังคงจะต้องมีชีวิตและอนาคตต่อไปอีกยาวไกล แต่แม่ของพวกเขาจะต่อสู้กับโรคร้ายที่กัดกินร่างกายของเธอไปได้นานสักเพียง ใด แล้วใครจะเป็นผู้ดูแลเธอทั้งสอง
ขอเชิญบริจาคเงินช่วยเหลือ และเป็นทุนการศึกษา สำหรับ แก้ม และกานต์ ที่บัญชี นางสาว ชุติมา เฉลิมถ้อย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนโรจนะ (อยุธยา) เลขที่บัญชีออมทรัพย์ 782-2 24508-2 (คุณพ่อของเธอเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็มไว้)
ขอบุญกุศล ที่ท่านได้กระทำในครั้งนี้ จงนำพาชีวิตของท่านและครอบครัว ไปสู่ความสุขความเจริญ มีโชคลาภ ชนะหมู่มาร แคล้วคลาดเคราะห์ร้าย ไร้ทุกข์โศกโรคภัย มาใกล้กราย ขออนุโมทนา
หมายเหตุ ภาพที่นำมาลงนี้ ได้ขออนุญาตจากคุณพ่อ และ ญาติ ๆ ของเธอแล้ว
เกิดชาติหน้าก็ขอให้สวยๆ,หล่อๆรวยๆนะครับ
เพื่อนของฉัน เพื่อนของฉันคนนี้ชื่อ น.ส ชุติมา หรือ ติ
ทำงานบริษัทเดียวกับฉันเป็นคน จ.อ่างทอง
เธออายุเพียงแค่ 24 ปี เธอมีลูกสองคน 5 ขวบกับ 6ขวบ เด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ช่ายน่ารักทั้งคู่ เพื่อนของฉันมีความสุขกับชีวิตครอบครัว พ่อ แม่ ลูก
อนาคตไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองรวม ทั้งเพื่อนฉันด้วย ตอนนี้ชีวิตเธอน่าสงสาร เธอเป็นมะเร็งโพงจมูกระยะขั้นสุดท้าย
ชีวิตของ เธอเหลือเวลาอีกไม่นานที่จะอยู่กับครอบครัว และลูกของเธอสิ่งที่เธอห่วงที่สุด
ในตอนนี้คือลูก ของเธอที่เป็นแก้วตาดวงใจของเธอจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีแม่ยังเล็กทั้งคู่
ฉันจึงอยาก จะให้เพื่อนๆในโลกใบนี้ที่ได้รับ mail ของฉัน
แบ่งปันความสุข เล็กๆน้อยๆของท่านให้กับเพื่อนของฉันด้วย
ชีวิตของเธอเหลือเวลาอีกไม่ นานและเธอต้องจาก
โลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ (ฉัน มีโอกาสช่วยเธอได้มากกว่านี้หรือเปล่า)
ขอขอบคุณ ผู้ที่มีน้ำใจทุกท่าน
ติดต่อให้การช่วยเหลือ 08-02609848 คูณ พัชรี(ติ้ก)
ขอน้ำใจท่านส่ง mail ต่อด้วย
ที่มา...FW Mail กัลยาณมิตร คุณกุหลาบสีชาค่ะ