ขอเชิญร่วมบุญผลิตซีดีเตือนสติในงานศพ เพื่อสร้างความกตัญญู
ขออนุญาตเว็บมาสเตอร์ ประกาศงานบุญเผยแผ่ธรรม
วันนี้อาตมาภาพได้ทำต้นฉบับเรื่อง เตือนสติในงานศพ เพื่อสร้างความกตัญญู เหมาะที่จะนำไปเป็นของชำร่วยในการแจกงานศพ หรือนำไปให้ผู้ที่มีเครื่องเสียงใช้เปิดในงานศพได้เป็นอย่างดี หรือนำไปถวายวัดเพื่อเปิดเป็นอนุสสติ (มรณสติ ระลึกถึงความตายอันจะมีแก่ตนโดยแยบคาย เป็นเหตุให้ไม่ประมาทมัวเมาในชีวิต และบรรเทาความกลัวตายได้ เร่งรีบสร้างคุณงามความดี มีให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา) เนื้อหาสาระมุ่งประเด็นในการเตือนสติผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และเพื่อสร้างความกตัญญูให้เกิดมีในสังคมด้วย
รับฟังและดาวน์โหลดตัวอย่างซีดีจาก 11 ชั่วโมง
http://www.phrasomrak.com/images/stories/audio/morananusati.mp3
พุทธศาสนิกชนท่านใดต้องการร่วมเป็นเจ้าภาพผลิตซีดีชุดนี้ สามารถทำได้ดังนี้
สามารถร่วมบุญได้ที่
ธนาคาร กรุงไทย (ออมทรัพย์)
สำนักงาน สาขาศีขรภูมิ
บัญชีเลขที่ 331-0-12684-6
ชื่อบัญชี พระสมรัก ญาณธีโร
กรณีต่างประเทศ
สวิปโค๊ส
KRTHTHBK (โอนผ่านเน็ต)
KRTHTHBK007895(โอนผ่านเน็ตสกุลต่างประเทศ)
ส่งเป็นธนาณัติหรือไปรษณีย์ออนไลน์สั่งจ่ายในนาม
พระสมรัก ญาณธีโร สถานีวิทยุพระพุทธศาสนาวัดพันษี ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ 32110
ส่งเป็นพัสดุผลิตสื่อธรรมได้
1.แผ่นซีดีแผ่นยี่ห้ออะไรก็ได้ (ตามกำลังศรัทธา)
2.แสตมป์ส่งซีดี 5 บาท (ตามกำลังศรัทธา)
3.สติ๊กเกอร์ปิดแผ่นซีดี 2 ช่องปริ้น (ตามกำลังศรัทธา)
4.ซองส่งใส่ซีดี (ตามกำลังศรัทธา)
5.ซองส่งซีดี (ตามกำลังศรัทธา)
ท่านสามารถร่วมบุญตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันออกพรรษา และจะประกาศแจกซีดีชุดนี้ หลังจากออกพรรษาแล้ว จัดทำไม่จำกัดจำนวน ชุดละ 20 บาท (ประกอบไปด้วย 1.ซองส่งซีดี 2.แสตมป์ 3.สติ๊กเกอร์ 4.ซีดี 5.ซองใส่ซีดีฯลฯ) ในการทำซีดีชุดนี้จะจัดส่งไปถวายพระนักเทศน์รุ่น 9 หนตะวันออก 51 รูป (อ่านรายนามพระนักเทศน์) และผู้สนใจทุกท่าน ทำตามงบที่ร่วมบุญเข้ามา
เจ้าภาพที่ร่วมบุญแล้ว สามารถขอรับซีดีชุดนี้ได้ โดยกรอกชื่อและที่อยู่ที่สามารถส่งถึงได้ somrak43@hotmail.com หรือโทรไปที่ 0862602702 และช่วยแจ้งวันเดือนปีจำนวนเงินที่โอน หรือกรอกชื่อและที่อยู่เพื่อจัดส่งในเว็บนี้เลยก็ได้
ตรวจสอบรายนามผู้ร่วมบุญได้ที่ลิงค์
http://www.phrasomrak.com/index.php?option=com_content&view=article&id=41:2010-09-30-03-59-09&catid=1:2010-02-19-12-29-45&Itemid=8
อานิสงส์ของธรรมทาน
....ธรรมทานนี้มีอานิสงส์มาก ดังที่มีการพรรณนาคุณไว้ในอรรถกถาธรรมบท ว่า
.....แม้ทายกจะถวายจีวรอย่างดีที่สุด แด่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลายที่นั่งติดๆ กันเต็มห้องจักรวาลนี้ ก็ยังมีอานิสงส์น้อยกว่าการอนุโมทนาของพระพุทธเจ้า ด้วยพระคาถา(๒) เพียง ๔ บาท และจีวรทานนั้นมีค่าไม่ถึงเศษส่วน ๑๖ แห่งพระคาถาที่พระพุทธองค์ทรงอนุโมทนา
.....แม้ทายกจะถวายโภชนะข้าวสาลี กอปร ด้วยสูปะพยัญชนะอันประณีต เป็นต้นให้เต็มบาตรพระพุทธเจ้าก็ดี จะถวายเภสัชทาน มี เนยใส เนยเหลว น้ำผึ้ง เป็นต้น ให้เต็มบาตรพระพุทธเจ้าที่นั่งติด ๆ เต็มห้องจักรวาลก็ดี ยังมีอานิสงส์น้อยกว่าธรรมทานที่พระพุทธเจ้า อนุโมทนาด้วยพระคาถาเพียง ๔ บาท
.....อนึ่ง ทายกจะถวายเสนาสนะ มีมหาวิหาร หรือโลหปราสาทหลายแสนหลัง ยังมีอานิสงส์น้อยกว่าธรรมทานที่พระพุทธเจ้า อนุโมทนาด้วยพระคาถาเพียง ๔ บาท
.....การแสดงธรรม การบอกธรรม การฟังธรรม มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่และประเสริฐกว่าจีวรทาน บิณฑบาตทาน เสนาสนทาน ทุกอย่าง เพราะว่าชนทั้งหลายจะทำบุญมากมายขนาด นั้นได้ ก็ต่อเมื่อได้ฟังธรรมแล้ว ถ้าไม่ได้ฟังธรรมมีศรัทธาแล้ว จะถวายข้าวสวยสักทัพพี ข้าวต้มสักกระบวยก็ยังยาก แม้บุคคลสำเร็จมรรคผล จะสำเร็จอัครสาวกภูมิ ก็ต้องอาศัยการฟังธรรม
.....อีกประการหนึ่ง ยกเว้นพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าแล้ว แม้พระสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตร เป็นต้น ผู้เป็นเลิศด้วยปัญญาญาณ สามารถนับเม็ดฝนที่ตกอยู่ตลอดกัปได้ ก็ยังไม่สามารถจะบรรลุอริยผล มีโสดาปัตติผลเป็นต้น โดยลำพังตนเองได้ ต่อเมื่อได้ฟังธรรม จากพระอัสสชิเป็นต้นแล้ว จึงทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล และบรรลุธรรมสูงสุด ด้วยพระ ธรรมเทศนาของพระบรมศาสดา เพราะเหตุนี้ "ธรรมทานจึงประเสริฐที่สุด" ดังเรื่องปัญหาของท้าวสักกเทวราช (๓)
.....ในสมัยหนึ่ง ท้าวสักกเทวราชพร้อมด้วยเทวดาหมื่นจักรวาลมาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้นถึงแล้วจึงน้อมนมัสการทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "การให้อะไร ชนะการให้ทั้งปวง รสแห่งอะไร ชนะรสทั้งปวง ความยินดีในอะไร ชนะความยินดีทั้งปวงความสิ้นไปแห่งอะไร ชนะทุกข์ทั้งปวง"
.....พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาท้าวสักกะผู้เป็นจอมเทพยดา ปรากฏใน ตัณหาวรรค ธรรมบท ว่า
.....สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ สพฺพรสํ ธมฺมรโส ชินาติ
.....สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ ตณฺหกฺขโย สพฺพทุกฺขํ ชินาติ
.....การให้ธรรมทาน ชนะการให้ทั้งปวง
.....รสแห่งธรรม ชนะรสทั้งปวง
.....ความยินดีในธรรม ชนะความยินดีทั้งปวง
.....ความสิ้นไปแห่งตัณหา ชนะทุกข์ทั้งปวง
.....ผู้ใดให้ธรรมเป็นทาน ผู้นั้นชื่อว่าให้พระนิพพานแก่คนทั้งหลาย
อ้างอิง
(๑) ธรรมบท ขุททกนิกาย พระสูตรและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏฯ เล่ม ๔๓ หน้า ๓๒๕
(๒) คำประพันธ์ประเภทร้อยกรองในภาษาบาลี อัตราของฉันท์ คือ ๔ บาท เรียกว่า
คาถาหนึ่ง
(๓) ธรรมบท ขุททกนิกาย พระสูตรและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏฯ เล่ม ๔๓ หน้า ๓๒๓