สัมมาญาณะ - สัมมาสัมพุทธเจดีย์
สัมมาญาณะ รู้ชอบ ได้แก่ผลญาณ คือญาณอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากมรรคญาณ เช่น โสดาปัตติผล เป็นต้น และปัจจเวกขณญาณ (ข้อ ๙ ในสัมมัตตะ ๑๐)
สัมมาทิฏฐิ ปัญญาอันเห็นชอบ คือเห็นอริยสัจ ๔, เห็นชอบตามคลองธรรมว่าทำดีมีผลดี ทำชั่วมีผลชั่ว มารดาบิดามี (คือมีคุณความดีควรแก่ฐานะหนึ่งที่เรียกว่ามารดาบิดา) ฯลฯ, เห็นถูกต้องตามที่เป็นจริงว่าขันธ์ ๕ ไม่เที่ยงเป็นต้น (ข้อ ๑ ในมรรค)
สัมมาทิฏฐิสูตร พระสูตรแสดงความหมายต่างๆ แห่งสัมมาทิฏฐิ เป็นภาษิตของพระสารีบุตร (สูตรที่ ๙ ในมัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ พระสุตตันตปิฎก)
สัมมาปฏิบัติ ปฏิบัติชอบ คือปฏิบัติชอบธรรม, ปฏิบัติถูกทำนองคลองธรรม, ดำเนินในมรรคามีองค์ ๘ ประการ (ปฏิบัติตามมรรค)
สัมมาปาสะ “บ่วงคล้องไว้มั่น”, ความรู้จักผูกผสานรวมใจประชาชน ด้วยการส่งเสริมอาชีพ เช่น ให้คนจนกู้ยืมทุนไปสร้างตัวในพาณิชยกรรม เป็นต้น (ข้อ ๓ ใน ราชสังคหวัตถุ ๔)
สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือเว้นจากวจีทุจริต ๔ (ข้อ ๓ ในมรรค)
สัมมาวายามะ เพียรชอบ คือเพียรในที่ ๔ สถาน ได้แก่ ๑. สังวรปธาน ๒. ปหานปธาน ๓. ภาวนาปธาน ๔. อนุรักขนาปธาน (ข้อ ๖ ในมรรค); ดู ปธาน
สัมมาวิมุตติ พ้นชอบ ได้แก่อรหัตตผล วิมุตติ (ข้อ ๑๐ ในสัมมัตตะ ๑๐)
สัมมาสติ ระลึกชอบ คือระลึกใน สติปัฏฐาน ๔ (ข้อ ๗ ในมรรค)
สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ จิตมั่นชอบ คือสมาธิที่เจริญตามแนวของ ฌาณ ๔ (ข้อ ๘ ในมรรค)
สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ
๑. เนกขัมมสังกัปปะ ดำริจะออกจากกามหรือปลอดจากโลภะ
๒. อัพยาปาทสังกัปปะ ดำริในอันไม่พยาบาท
๓. อวิหิงสาสังกัปปะ ดำริในอันไม่เบียดเบียน (ข้อ ๒ ในมรรค)
สัมมาสัมพุทธเจดีย์ เจดีย์ที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, เจดีย์ที่เป็นเครื่องเตือนจิตให้ระลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดู เจดีย์