01-006 ละวางอุปาทาน-ความเป็นตัวเป็นตน-ฟังธรรมพร้อมปฏิบัติ หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี นำปฏิบัติกรรมฐาน




01-006 ละวางอุปาทาน-ความเป็นตัวเป็นตน-ฟังธรรมพร้อมปฏิบัติ

หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี นำปฏิบัติกรรมฐาน

เสียงธรรมนี้เหมาะสำหรับฟังขณะเจริญภาวนา จะมีเสียงเงียบยาวเป็นช่วงๆ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติได้พิจารณา สังเกตสภาวธธรรมต่างๆ เป็นปัจจุบันตามความเป็นจริง โดยมีเสียงท่านเจ้าคุณพระภาวนาเขมคุณ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี) พระวิปัสสนาจารย์ เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะนั่งปฏิบัติกรรมฐานและสอนนำลูกศิษย์ไปด้วย

คลิปนี้พระอาจารย์ท่านสอนให้ตั้งสติระลึกตัวทั่วพร้อมด้วยความปล่อยวาง
ฝึกหัดจิตใจให้ปล่อยวาง
สอนใจ หัดใจ ให้สละละวาง ประคับประคองจิตใจให้รู้ละอยู่ทุกขณะ

เผลอไปเพ่ง.... รู้สึกเบ่งหรือเคร่งตึง
โทษของการเพ่งก็ทำให้เคร่งตึง
รู้ตัวก็ผ่อนตาม ปล่อยวาง คลี่คลายทำใจให้สละละวาง ปล่อยวางหนอ
สอนใจ ปล่อยวางหนอ ปล่อยวางหนอ

ระลึกรู้สภาวะธรรมทั้งที่ร่างกายและจิตใจด้วยความไม่ยินดียินร้าย ด้วยใจที่สละละวาง

สภาวะที่ร่างกาย...
ภายในกายก็จะมีความรู้สึกเย็น-ร้อน อ่อน-แข็ง หย่อน-ตึง ความรู้สึกไม่สบายกาย-หรือความรู้สึกสบายกาย
เหล่านี้เป็นสภาวะปรากฏอยู่ในสรีระทั้งภายในและภายนอก
สภาวะภายนอกที่มากระทบสัมผัสผิวกายให้เย็น-ให้ร้อน อ่อน-แข็ง สบาย-ไม่สบาย ก็ปรากฏ

สภาวะทางใจก็มีอยู่....
พิจารณาสังเกตดูอาการ ความรู้สึกของจิตใจ
จิตใจที่คิดนึก ที่วิตก วิจารณ์ วิจัย สงสัย พอใจ-ไม่พอใจ ที่มีความรู้สึกไปต่างๆ มีความสบายใจ-ความไม่สบายใจ ความขุ่นมัวเศร้าหมองหรือผ่องใส
ปรากฏอย่างไรก็รับรู้ไป
ใส่ใจรับรู้ ละวาง อยู่
ให้รู้อย่างปล่อยวาง ปล่อยวางหนอ ปล่อยวางหนอ

สังเกตความเปลี่ยนแปลง ความเสื่อมสลาย ความไม่ยั่งยืน ของสภาวะธรรม
มีความเกิดขึ้น มีความเสื่อมไปดับไปอยู่
เกิดขึ้นโดยธรรมดา-ดับไปโดยธรรมดา

เป็นอย่างไร เป็นตัวเป็นตนหรือไม่
ใส่ใจ สังเกต พิสูจน์ความจริง....
ตัวเราของเราหรือไม่ ตรงไหนคือตัวเรา ไหนเป็นของเรา...
ก็รู้ พิสูจน์ ดูกันตรงนั้น ที่นั้น...
จิตยึดอะไรก็ดูที่นั้น...
ยึดจิตใจ-ก็ดูที่จิตใจ สังเกตว่ามีความรู้สึกเป็นเรา หรือว่าเจออุปทานที่ให้รู้สึกว่าเป็นเรา
ก็ลองพิสูจน์ดู
ถามดูว่าตัวเราอย่างนี้หรือคือเรา สิ่งที่ปรากฏเปลี่ยนแปลงอยู่นี้เป็นเรา เป็นเราได้อย่างไร
เมื่อปรากฏความจริงก็จะทิ้งความยึดถือเป็นเรา เป็นของเรา

ความทุกข์มีจริง ความทุกข์ไม่ใช่ตัวตน
จิตใจมีจริง แต่ไม่ใช่ตัวตน

คิดนึกปรากฏ-กำหนดรู้อยู่
ความคิดนึกมีอยู่จริง ปรากฏอยู่จริง แต่ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวตน
เมื่อพิสูจน์แล้วความคิดมีความเกิดดับ มีความดับไป ไม่มีแก่นสารแห่งความเป็นตัวเป็นตน

ความสบายใจ-ความไม่สบายใจ ก็เพียงสักแต่ว่าธาตุธรรมชาติ เป็นนามธรรม
จะว่าเป็นเราเป็นของเราก็ไม่ใช่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏเป็นไปอยู่จริง

เสียงมีจริงได้ยินมีจริง แต่ไม่ใช่ตัวเราของเรา
ได้ยินก็เปลี่ยนแปลงดับไป

ความสุข-ความทุกข์ก็เปลี่ยนแปลง
ความปวด-ความเจ็บ-ความไม่สบายกาย ก็มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะ มีความเกิดดับอยู่ทุกขณะ

ความเจ็บปวดที่กายก็อย่างหนึ่ง จิตใจที่รู้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง....
สังเกตความเป็นคนละอย่าง...
กายกับใจคนละอย่าง....

เมื่อพิจารณาไปก็จะพบความจริงว่าเป็นเพียงสิ่งต่างๆ
สิ่งหนึ่งปรากฏให้รู้
สิ่งหนึ่งก็เป็นผู้รู้
ทั้งสองสิ่งก็เปลี่ยนแปลงเกิดดับ

หมายเหตุ: ข้างต้นนี้เป็นคำสอนพระอาจารย์ในคลิปนี้ แต่ไม่ใช่การถอดคำสอนคำต่อคำ

ขอเชิญรับฟังทั้งคลิปเต็มพร้อมปฏิบัติ
ขอให้ท่านเจริญในธรรม
อนุโมทนาสาธุค่ะ

ต้นฉบับเสียงธรรมนี้ได้รับความเมตตาอนุญาตจากพระอาจารย์ หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี ให้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทานได้

เสียงนกและเสียงอื่นๆ ในคลิปนี้เป็นเสียงธรรมชาติในขณะที่พระอาจารย์กำลังนำปฏิบัติกรรมฐาน ผู้จัดทำไม่ได้เพิ่มเติมเสียงอื่นใดแต่อย่างใด
https://www.youtube.com/@WirangrongDabbaransi

ที่มา : https://www.youtube.com/@WirangrongDabbaransi

3,127






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย