"ผู้มีปัญญากลัวกรรมยิ่งนัก" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)



.
 "ผู้มีปัญญากลัวกรรมยิ่งนัก"

" .. อดีตชาติของทุกคนมีมากมายนัก "จึงได้ทำกรรมกันไว้มากมายนัก กุศลกรรมบ้าง อกุศลกรรมบ้าง" ชีวิตในปัจจุบันจึงมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง

"คนมั่งมีเป็นมหาเศรษฐีก็ด้วยอำนาจของกุศลกรรม" คือการบริจาคช่วยเหลือเจือจุนผู้อื่น ที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติ เมื่ออกุศลกรรม คือการคดโกงเบียดเบียนทรัพย์สินให้ผู้อื่นต้องเดือนร้อน ที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติตามมาส่งผลและเมื่อเป็นผลที่แรงกว่า มีกำลังกว่ากุศลกรรมที่กำลังเสวยผลอยู่ "อกุศลกรรมก็จะตัดรอนกุศลกรรม" ส่งผลไม่ดีของอกุศลกรรมให้เกิดแทน ความมั่งมีก็จะกลับเป็นความไม่มี เงินทองของมีค่าก็จะสูญหายหมดไป "อกุศลกรรมแรงมากก็จะสามารถทำให้มหาเศรษฐีสิ้นเนื้อประดาตัวได้" กำลังเป็นสุขก็จะเป็นทุกข์เดือนร้อน อำนาจของกรรมเป็นเช่นนี้จริง

"ผู้มีปัญญาจึงกลัวกรรมยิ่งกว่ากลัวอะไรอื่น" กลัวเพราะรู้ว่า "เมื่อทำกรรมไม่ดีไว้แล้ว ต้องได้รับผลไม่ดี" และเมื่อถึงเวลาที่กรรมส่งผลไม่ดีมาถึงตัวแล้ว "แม้ตั้งแต่เกิดมาในชาตินี้จะไม่เคยทำกรรมไม่ดีเช่นนี้ ก็จะต้องได้รับผลไม่ดี" ที่อาจทำให้พิศวงสงสัยจนถึงมาก "คนเกิดมิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด คือเห็นไปว่าทำดีไม่ได้ดี ซึ่งความจริงไม่ใช่เช่นนั้น ทำดีต้องได้รับผลดีเสมอ ทำไม่ดีจึงจะได้รับผลไม่ดี" .. "

"อำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งกรรม"
(สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร) 
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=9926   

5,184







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย