ปลากลืนเบ็ด ... ผู้ติดเหยื่อ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ผู้ซึ่งไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ลาภสักการะ และชื่อเสียง
ทารุณ เผ็ดร้อน หยาบคาย
เป็นอันตรายแก่การบรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ
ซึ่งไม่มีธรรมอื่นยิ่งไปกว่า

เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
ปลากลืนเบ็ด ... ผู้ติดเหยื่อ
๐ เบ็ดเกี่ยวเหยื่อ เยื่อใยพา ปลากลืนเบ็ด
หมายจะเด็ด เหยื่อให้สิ้น กินผสม
งับเหยื่อไป เบ็ดเกี่ยวรั้ง ช่างระบม
เบ็ดที่คม เกี่ยวลึก ตรึกให้ดี
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 1 / หิ่งห้อยน้อย / 18 ก.ค. 2554 เวลา 01:37 น.
ปลากลืนเบ็ด ... ผู้ติดเหยื่อ
๐ ทั้งลาภ ยศ ทั้งสุข และสรรเสริญ
ใช่บังเอิญ เพราะกุศล ดลถึงที่
กุศลวิบาก ส่งให้ ได้เปรมปรีดิ์
ทุกทิวา ราตรี จึงปรีเปรมดิ์
๐ ตราบอกุศลวิบากยัง ไม่ให้ผล
สุขก็ดล จิตระรื่น ชื่นเกษม
ทั้งลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เพลินปรีเปรมดิ์
ให้อิ่มเอม ลืมระลึก นึกถึงมัน
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 2 / หิ่งห้อยน้อย / 19 ก.ค. 2554 เวลา 15:55 น.
มีประโยชน์และสาระดี แก่การสอนเด็ก ขอให้เจริญๆๆๆขึ้นๆๆๆไป
# 3 / prapanyut / 20 ก.ค. 2554 เวลา 16:08 น.
# พรานเบ็ด...!
@ มิได้มา ตั้งนาน เจอพรานเบ็ด
คนอาจคิด ว่าเข็ด ถูกเบ็ดเกี่ยว
ไม่หาเหยื่อ มาล่อ พอแล้วเชียว
แท้ยังเที่ยว หาเหยื่อ ทุกเชื่อวัน
@ ปลาติดเบ็ด เพราะจิต ติดความอยาก
คนลำบาก เพราะจิต คิดเฝ้าฝัน
อยากเป็นโน่น เป็นนี่ ตะบี้ตะบัน
เมื่อได้นั่น เอานี่ ไม่มีพอ
@ อาจารย์แม่ สรรหา เรื่องปลาเบ็ด
ปลาที่เสร็จ เพราะเหยื่อ เชื่อไหมหนอ
คนที่เสร็จ เพราะอยาก เรื่องปากคอ
หาจนท้อ ก็ไม่ ตัดใจปลง
@ วิ่งกันพล่าน เหมือนปลา ถลาว่าย
ยังไม่ตาย ก็คิด จิตลุ่มหลง
โดนเหยื่อปลอม เหยื่อจริง ยิ่งงวยงง
บอกตรงตรง เหมือนปลา ที่ตาลาย
@ สวาปาม เห็นเหยื่อ เมื่อถูกล่อ
กรรมแท้หนอ ตัณหา พาซัดส่าย
วิบากเสริม ซ้ำซาก ลำบากกาย
ดูคลับคล้าย ปลากินเบ็ด เสร็จแน่เอย....
# 4 / นิวพุดเดิล / 20 ก.ค. 2554 เวลา 20:41 น.
๐ ตราบอกุศลวิบากยัง ไม่ให้ผล
สุขก็ดล จิตระรื่น ชื่นเกษม
ทั้งลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เพลินปรีเปรมดิ์
ให้อิ่มเอม ลืมระลึก นึกถึงมัน
๐ ยามอกุศลวิบาก เริ่มให้ผล
ทุกข์ก็ยล ลาภก็หาย คลายสุขสันต์
ยศก็เสื่อม เสียงนินทา พาโจษจัน
ความโศกศัลย์ ก็เข้าครอง ต้องหมองใจ
๐ รู้ให้ทัน โลกธรรมแปด ที่แผดเผา
พาสู่เขลา สู่เปือกตม บ่มอนุสัย
อุเบกขา วางเมื่อพบ ประสบภัย
รู้ทันใด ว่ามันเป็น "เช่นนั้นเอง"
เจริญในธรรม เจ้าค่ะ
# 5 / หิ่งห้อยน้อย / 21 ก.ค. 2554 เวลา 02:35 น.
"...รู้ทันใด ว่ามันเป็น "เช่นนั้นเอง "
@ พุทธทาส ท่านเคย เอ่ยคำสอน
เป็นบทกลอน สอนใจ ให้ครัดเคร่ง
ว่าทุกสิ่ง สรรพมวล ล้วนบรรเลง
เป็นบทเพลง เดียวกัน เช่นนั้นแล
@ ทุกข์ก็เป็น เช่นทุกข์ ไม่สุขสันต์
สุขก็เป็น เช่นนั้น มันของแน่
ทั้งสุขทุกข์ คละกัน ก่อนผันแปร
ไม่เที่ยงแท้ สักอย่าง ทางโลกีย์
@ พรานตกเบ็ด ได้ปลา ก็ว่าสุข
คนสนุก เริงร่า หน้าสุขี
ก็ว่าใช่ แล้วสุข ทุกชีวี
สุขแท้นี้ ที่แท้ แค่สุขเทียม
@ สุขสงบ นัตถิ สันติสุข
คือพ้นทุกข์ พ้นโลกีย์ ที่เต็มเปี่ยม
ด้วยปิติ เอกคตา อารมณ์เตรียม
สู่นิพพาน ที่ยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน...พุดเดิล
# 6 / นิวพุดเดิล / 21 ก.ค. 2554 เวลา 13:02 น.
เหยื่อต่างๆที่พลอยลอยละล่อง
ล้วนคือสิ่งหม่นหมองให้แลเหลียว
ต้องพลั้งพลาดเพราะตัวเราเขลาจริงเชียว
คิดว่าเหยื่อนั้นควรเคี้ยวคือของดี
หารู้ไม่ข้างในนั้นมีเบ็ด
งับเข้าไปก็เสร็จต้องถึงที่
แม้ดิ้นรนหลุดมาได้อีกกี่ที
ปากดีดีก็ต้องแหว่งแฝงบทเรียน
อ้าพุทธโอวาทประหลาดล้ำ
ตรัสว่าสิ่งที่ดูงามน่าคลื่นเหียน
หากยังหลงงมงายตายเกรียนเกรียน
แม้เฝ้าเพียรกลุ้มรุม.....ไม่คุ้มเลย
การแก่งแย่งกันเป็นใหญ่ที่สุดทุกคนก็จะรู้เองว่าเสมือนแข่งกันวิ่งเข้าไปหากองไฟ
เสนาบดีดื่มน้ำด้วยภาชนะทองคำกับคนจนดื่มน้ำด้วยภาชนะที่ทำจากกะลามะพร้าวถ้าความพอใจเท่ากันย่อมไม่ต่างกัน
อันที่สามนี้จำได้แค่คร่าวๆอ่ะครับที่มีปลาแย่งกันกินเหยื่อแต่หารู้ไม่ว่าภายในนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่
หากปราศจากพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วไซร้ คงต้องงมอีกนาน (ไม่เจออีกต่างหาก) ข้าพเจ้าขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งเป็นสรณะ ตลอดชีวิตครับผม
สวัสดีครับทุกท่าน ต้องแอบไปแบบเงียบๆ เดี๋ยวคุณหิ่งห้อยน้อยรู้อีกว่าจำได้แค่กระท่อนกระแท่น แหะ แหะ สวัสดีคร้าบบบ
# 7 / คืนถิ่น / 22 ก.ค. 2554 เวลา 16:36 น.
อนุโมทนาบุญครับ
# 8 / ไฟฉาย / 5 ส.ค. 2554 เวลา 13:25 น.