"นิทานหลวงปู่อ่อน ไม่ถึงคราวตาย" "(หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ")

 วิริยะ12  

.
 นิทานหลวงปู่อ่อน "ไม่ถึงคราวตาย"

... มีนิทานเรื่องหนึ่งที่องค์ท่าน (หลวงปู่อ่อน) มักเล่าเรื่อง "ไม่ถึงคราวตายก็ไม่ตาย" ท่านพูดถึงท่านไปอยู่ป่ากลัวเสือคาบคอเอาไปกิน

เรื่องนี้มีอยู่ว่า คน ๆ หนึ่ง "จับสัตว์สองอย่าง คือปลาและกระต่าย" ได้ดิ้นไม่หลุด "ปลามันแกล้งทำเป็นตาย" กระต่ายมันวิ่งตำตาข่ายแล้ว "มันก็ทำแกล้งเป็นตาย" ไม่หายใจ คนผู้ได้กระต่ายก็จับขามันหิ้วมาเอาสุ่มครอบไว้บนชานเรือนกับปลานั้น

สายพอถึงเวลาทำอาหารกินข้าว พ่อผู้ไปได้ปลาและกระต่ายมานั้น ก็บอกลูกสาวว่า ..

"จงเอาปลาที่ตายแล้วอยู่ในครุ ไปทำกิน"/b]

ลูกสาวก็เข้าใจว่า "ปลามันตายดังที่พ่อว่า" จึงจับเอาไปล้างน้ำหนองใหญ่ริมบ้านนั้น ปลาก็ดิ้นอย่างแรง "หลุดมือลูกสาวไปพ้นจากความตาย"

ลูกสาวบอกพ่อว่า "ปลามันยังไม่ตาย มันดิ้นหลุดมือไปในน้ำแล้ว" พ่อบอกว่า

"เอากระต่าย ที่ตายแล้ว กูเอาสุ่มครอบไว้ทำกิน"

ลูกสาวไปเปิดสุ่มออก กระต่ายลุกยืนขึ้น กระโดดไปพิงหม้อน้ำกิน ลูกบอกพ่อว่า

"กระต่ายก็ยังไม่ตาย"

พ่อได้ยินเข้ารีบคว้าดุ้นฟืน วิ่งไปฟาดลงใส่กระต่าย "กระต่ายกระโดดหนี ดุ้นฟืนโดนโอ่งน้ำแตก" กระต่ายไปพิงไหปลาร้า ตาแกวิ่งไปตีกระต่าย "กระต่ายกระโดดหนี ดุ้นฟืนถูกไหปลาร้าแตก" กระต่ายไปแอบอยู่ข้างหม้อแกง ตาแกวิ่งตามไปตี กระต่ายกระโดดหนี "ตีถูกหม้อแกงแตก"

กระต่ายกระโดดไปแอบอยู่ที่หม้อนึ่งข้าว ตาแกวิ่งไปตีกระต่าย กระต่ายกระโดดหนี "ตีถูกหม้อนึ่งข้าวแตก" กระต่ายกระโดดหนีลงเรือนและวิ่งเข้าป่าหนีไป "พ้นจากความตาย" เรื่องเป็นเช่นนี้ ..

ตัวข้าพิจารณาเรื่องปลาและกระต่ายที่ถูกเขาจับ จนจะทำเป็นอาหารกินอยู่แล้ว แต่เมื่อกรรมไม่เคยฆ่ากันมาก่อน มันก็ยังไม่ถึงที่ตาย "เราก็จะมาเป็นบ้ากลัว ให้มันเป็นทุกข์ทำไมกัน"

กรรมเรากับเสือ "ถ้าไม่ถึงคราวตาย เสือจ้างให้มันก็ไม่กิน" เราได้ทำความเพียร ปฏิบัติศีลธรรมให้เกิดบุญอันใหญ่ อุทิศบุญกุศลไปให้สัตว์ทั้งหลายให้ได้รับผลอยู่แล้วดังนี้เราก็ทำอย่างไรอีกเล่า

คนเขาฆ่าคนตาย ปล้นเอาทรัพย์ลักของกัน ถ้าผู้เป็นโทษรับสารภาพว่า "ตนได้เป็นโทษแล้วยอมรับใช้สิ่งของที่ตนกระทำแล้ว เจ้าโจทย์ก็ยังอโหสิกรรมโทษให้" หยุดเอาเรื่องกัน มีเต็มโลกอยู่อย่างนี้ .. "

"หลวงปู่อ่อน ญาณศิริ" 

5,583





จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย