"ทำสมาธิ อย่าทำด้วยความอยาก" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)

 วิริยะ12  

.
 "ทำสมาธิ อย่าทำด้วยความอยาก"

" .. "ตั้งใจทำสมาธิเกินไป ก็กลายเป็นความอยาก" แต่ว่าพวกเราทุก ๆ คนมันร้อนเหมือนกันนะ มันร้อน "พอทำปุ๊บ ก็อยากให้มันไปไว ๆ ไม่อยากจะอยู่ช้า อยากจะไปหน้า" การกำหนดตั้งใจหาสมาธินี้บางคนจึงตั้งใจเกินไป

บางคน "ถึงกับอธิษฐานเลยจุดธูปปักลงไปกราบลงไป ถ้าธูปดอกนี้ไม่หมด ข้าพเจ้าจะไม่ลุกจากที่นั่งเป็นอันขาด" มันจะล้มมันจะตายมันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน จะตายอยู่ที่นี้แหละ

พออธิษฐานตั้งใจปุ๊บ "ก็นั่ง มันก็เข้ามารุมเลย พญามารนั่งแพล๊บเดียวเท่านั้นละ ก็นึกว่าธูปมันคงจะหมดแล้ว เลยลืมตาขึ้นดูสักหน่อย โอ้โฮยังเหลือเยอะ" กัดฟันเข้าไปอีก มันร้อนมันรนมันวุ่นมันวาย ไม่รู้ว่าอะไรอีกเต็มทีแล้ว

นึกว่ามันจะหมด "ลืมตาดูอีก โอ้โฮ ยังไม่ถึงครึ่งเลย สองทอดสามทอดก็ไม่หมด" เลยเลิกเสีย เลิก ไม่ทำ "นั่งคิดอาภัพอับจน แหมตัวเองมันโง่เหลือเกิน มันอาภัพ" มันอย่างโน้นอย่างนี้

"นั่งเป็นทุกข์ว่า ตัวเองเป็นคนไม่จริง" คนอัปรีย์ คนจัญไร คนอะไรต่ออะไร วุ่นวาย "ก็เลยเกิดเป็นนิวรณ์ นี่ก็เรียกว่าความพยาบาทเกิด ไม่พยาบาทคนอื่น ก็พยาบาทตัวเอง" อันนี้ก็เพราะอะไร "เพราะความอยาก"

"ทำสมาธิด้วยการปล่อยวาง อย่าทำด้วยความอยาก"

ความเป็นจริงนั้นนะ "ไม่ต้องไปทำถึงขนาดนั้นหรอก" ความตั้งใจนะ คือ "ตั้งใจในการปล่อยวาง ไม่ต้องตั้งใจในการผูกมัดอย่างนั้น" อันนี้เราไปอ่านตำรา เห็นประวัติพระพุทธเจ้าว่า

ท่านนั่งลงที่ใต้ต้นโพธิ์นั้น "ท่านอธิษฐานจิตลงไปว่า ไม่ตรัสรู้ตรงนี้ จะไม่ลุกหนีเสียแล้ว แม้ว่าเลือดมันจะไหลออกมาอะไรก็ตามทีเถอะ" ได้ยินคำนี้เพราะไปอ่านดู "แหมเราก็จะเอาอย่างนั้นเหมือนกัน" จะเอาอย่างพระพุทธเจ้าเหมือนกัน

นี่ไม่รู้เรื่องว่า "รถของเรามันเป็นรถเล็ก ๆ รถของท่านมันเป็นรถใหญ่ ท่านบรรทุกทีเดียวก็หมด" เราเอารถเล็กไปบรรทุกทีเดียวมันจะหมดเมื่อไหร่ มันคนละอย่างกัน "เพราะอะไรมันถึงเป็นอย่างนั้น มันเกินไป บางทีมันก็ต่ำเกินไป บางทีมันก็สูงเกินไป" ที่พอดี ๆ มันหายาก .. "

"สัมมาปฏิปทา ปฏิบัติสม่ำเสมอ"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
 

5,596







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย