สติ-ระลึกได้ สัมปชัญญะ-คิดใคร่ครวญ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
		
		
			
			
			
			
			
			
			
						
			
				พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต 
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ต่อนี้ก็พากันตั้งอกตั้งใจ โอกาสที่จะได้อยู่ด้วยนั้นมีน้อยเหลือเกิน
เพราะฉะนั้นจึงจะต้องหาโอกาสแนะนำตักเตือน ให้พากันมี "สติ สัมปชัญญะ"
ระลึกให้ได้เสมอ ทางที่เราจะรู้ผิดรู้ถูกด้วยตนเองได้ก็เพราะอาศัยสติสัมปชัญญะนี่แหละ
เป็นผู้ระลึกเข้าไปในกายในจิต หัดสติความระลึกนี่ให้มันว่องไว 
ให้มันทันกาลทันเวลา สติ..พระพุทธเจ้าทรงเปรียบไว้เหมือนกับ "ทำนบ" ทำนบกั้นน้ำ
สติที่ไม่ได้ฝึกฝนให้ดี ให้เข้มแข็ง มันก็เหมือนอย่างทำนบที่ทำไม่แข็งแรง 
เมื่อน้ำเอ่อเข้ามาก็พังลงไป นั่นเปรียบได้กับผู้ที่ไม่ฝึกสติให้เข้มแข็ง 
ควบคุมจิตใจตัวเองไม่ได้ พอเรื่องดีเรื่องชั่วอะไรกระทบกระทั่งมา 
จิตใจก็หวั่นไหวไปตามเลย ตั้งมั่นอยู่ไม่ได้ เหมือนกับทำนบกั้นน้ำที่ไม่ทำให้แข็งแรงนั้นแหละ
ทีนี้ผู้ใดเป็นผู้ฝึกสติให้เข้มแข็ง สติสัมปชัญญะเป็นคู่กัน 
สติ-ความระลึกได้ คือ ระลึกถึงเรื่องราวต่างๆได้ 
สัมปชัญญะ-เป็นผู้ใคร่ครวญ เป็นผู้พิจารณาว่าเรื่องนี้คืออะไร ความจริงเป็นยังไง
อย่างนี้นะ..เพราะฉะนั้นมีแต่สติอย่างเดียว ถ้าขาดจากสัมปชัญญะแล้ว 
ก็ไม่ได้ผลอีกเหมือนกัน ดังนั้นก็ขอให้สังเกตดู 
คุณธรรมสองอย่างนี้มันมีอยู่ในตัวของเรา มากน้อยเพียงใดก็กำหนดรู้เอาด้วยตนเอง
แต่ทุกคนก็มีสติสัมปชัญญะอยู่เหมือนกันแหละผู้ใดก็ดี ไม่มีสติสัมปชัญญะก็เป็นบ้าเท่านั้นเอง