ค้นหาในเว็บไซต์ :

วิปัสสนา

เรื่องที่ ๒๙ : ๑๑ วันธรรมบรรยาย ( ๑๕ )
โดย : ท่านอาจารย์สัตยา นารายัน โกเอ็นก้า


ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่จีรัง มีการเกิดขึ้นและดับไปอยู่ทุกขณะ เป็นอนิจจังแต่ความรวดเร็ว และความต่อเนื่องกัน ของกระบวนการเกิดดับ ทำให้เกิดเป็นภาพมายาว่า เที่ยงแท้เช่นเปลว เทียนและแสงไฟจากหลอดไฟฟ้า ต่างก็มีการเกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างสม่ำเสมอ ถ้าคนเรา สามารถจับกระบวนการเปลี่ยนแปลงในตัวเรา อย่างที่เกิดกับเปลวเทียนและแสงไฟได้ โดย อาศัยเวทนา หรือความรู้สึกที่เกิดกับกายของเราเอง เราก็จะหลุดพ้นจากภาพลวงตาได้ แต่หาก เราไม่อาจจับได้ทัน เพราะการเเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับกระแสไฟฟ้า การจะหลุดพ้นออกจากภาพลวงตา ก็เป็นไปได้ยากยิ่ง

เราอาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาของสายน้ำไหลได้แต่เราจะเข้าใจ ได้อย่างไร ว่าคนที่อาบน้ำอยู่ในแม่น้ำนั้น ก็มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกขณะเช่นกัน วิธีเดียวที่จะ ทำลายภาพลวงตาได้ก็คือ เราจะต้องเรียนรู้ ที่จะสำรวจให้ลึกเข้าไปภายในตัวของเราเอง จน พบกับความจริง เกี่ยวกับโครงสร้างทั้งทางกายและจิตของเราเอง สิ่งนี้ เป็นสิ่งที่ พระสิทธัตถะ โคตมะ ได้ทรงกระทำ และทำให้ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ได้ทรงสลัดแนวความคิด ดั้งเดิมทั้งหมด และทรงหันมาสำรวจภายในพระกายของ พระองค์เอง เพื่อค้นหาธรรมชาติอัน แท้จริงของโครงสร้างทางร่างกายและจิตใจโดยเริ่มต้นตั้งแต่ ความเป็นจริงในระดับผิวเผินที่ เห็นได้ชัดเจน แล้วทะลุทะลวงลงไปยังระดับที่ ลึกที่สุด ซึ่งทำให้ทรงพบว่า โครงสร้างทาง กายภาพทั้งหมด หรือโครงสร้าง ทางรูปทั้งหมด ล้วนแต่ประกอบขึ้นด้วยอนุปรมาณู ที่เรียก ในภาษาบาลีว่า อัฐกลาปะ และแต่ละอนุปรมาณูนั้นประกอบไปด้วยธาตุทั้ง ๔ คือดิน น้ำ ลม ไฟ

และลักษณะย่อยของธาตุแต่ละธาตุนั้น ธาตุเหล่านี้จะเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของรูป หรือ ร่างกาย ซึ่งตัวของมันเอง ก็เกิดและดับอยู่เสมอ อย่างรวดเร็วมาก เป็นล้านๆครั้งในเวลา ๑ วินาที ดังนั้น ตามความเป็นจริงแล้ว วัตถุทุกชนิดในโลก ล้วนไม่มีตัวตน ไม่เป็น อะไรอื่น นอก จากการเผาไหม้ และกระแสของการสั่นสะเทือนกระเพื่อมไหว นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ก็ได้ ยืนยันการค้นพบของพระพุทธองค์ ว่าเป็นความจริง และได้พิสูจน์โดยการทดลองให้เห็นว่า สสารทั้งหมดในจักรวาล เกิด ขึ้นจากการรวมตัวของอนุปรมาณู ซึ่งมีการเกิดขึ้นและดับไป อย่างรวดเร็วตลอดเวลา

แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ก็ยังไม่พ้นทุกข์ เพราะปัญญาของพวกเขาเกิด จาก ความรู้ที่ได้มาจากเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้รู้จากประสบการณ์ภายในกายของตนเอง อย่างเช่นพระพุทธองค์ หากผู้ใดได้พบสัจธรรมในความไม่เที่ยงของตนเองแล้ว ผู้นั้นจึงจะ เริ่มหลุดพ้นจากความทุกข์





จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย