อยากหาทางออกให้กับชีวิตจังเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ
อยากหาทางออกให้กับชีวิตจังเลยค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ
ชีวิตของฉันคงจะดีกว่านี้ถ้าได้การที่ฉัดเด็ดขาดหรือเลือกอะไรอย่างใด อย่างหนึ่ง
ทุกวันนี้ชั้นคบกับผู้ชายคนหนึ่งโดยตอนแรกเราก็อยู่ด้วยกันอาจจะเพราะนิสัยหรืออะไรหลายอย่างเลยทำให้เขาออกไปอยู่ข้างนอก ชั้นเป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในกรุงเทพอาจจะโชคดีกว่าคนอื่นเขาที่ได้งานที่ค่อนข้างดี โดยพื้นฐานแล้วชั้นเป็นคนฐานะยากจน พ่อแม่ของชั้นเลิกกันตั้งแต่ชั้นยังไม่ทันเกิด แล้วเอาชั้นมาทิ้งไว้กับย่า ย่าก็เลี้ยงชั้นตามมีตามเกิด ไม่ค่อยได้รับความรักเท่าไหร่ คือไม่ได้รับความรักเลย เพราะเท่าที่จำความได้ ชั้นมักจะโดนทำโทษเสมอ อาจจะเป็นเพราะว่าชั้นไม่ใช่เด็กผู้ชาย ประกอบกับว่าย่าชอบเด็กผู้ชายมากว่า แต่ชั้นก็ยังโชตดีที่เรียนหนังสือ จะบอกว่าชั้นเกือบจะไม่ได้เรียนมันเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะที่บ้านไม่มีเงินเหรอกน่ะ แต่เพราะว่าย่าไม่อยากให้เรียนหนังสือ เพราะว่าอยากให้ช่วยทำงานบ้านมากกว่า แต่โชคดีที่ตอน ป.3 ชั้นเขียนเรียงความเรื่องพ่อ เกี่ยวกับพ่อ ว่าทำไมชั้นเห็นพ่ออยู่ใกล้ๆ แต่พ่อไม่ได้สนใจ ชั้นอยากมีพ่อแม่เหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง ค่อนข้างซึ้งพอสมควร มันคงจะโดนใจครูเลยขอทุนการศึกษาให้ชั้นได้เรียนจนจบ ป.6 ชั้นอยากบอกว่าชั้นอยากเรียนหนังสือมากน่ะ ขนาดไม่ได้เงินไปโรงเรียนชั้นก็ยังไป ชั้นเคยได้เสื้อผ้าใหม่ๆใส่กับเขาหรอก เพราะว่าไม่โอกาส จะมีแต่เสื้อที่บริจาคมาเท่านั้น จะบอกไปบ้านย่าชั้นก็ไม่ไดจนมากมาย แต่เพราะย่าชั้นท่านเข้าใจว่าชั้นเป็นลูกของผู้หญิงไม่ดี ท่านเลยไม่ค่อยแสดงออกเรื่องความรักเท่าไหร่แต่ชั้นก็ไม่ได้โกรธหรอก เพราะแค่คิดว่า ขอให้มีชีวิตรอดไปวันๆๆหนึงชั้นก็ดีใจแล้ว
หลังจากนั้นชีวิตก็ผกผัน ชันก็ออกจาโรงเรียน หาวิธีทางทำมาหากิน ทำงานทุกอย่างตั้งแต่ อายุไม่ถึง 15 เลย จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แต่เหมือนว่าชีวิตมันก็ไม่ได้โชคร้ายไปเสียหมดหรอก ชีวิตชั้นแม้จะไม่ราบหรู แต่ว่าก็ต่อสู้มาด้วยตัวเองจนกระทั่งพบผู้ชายคนหนึ่งคนที่เอ่ยไว้ข้างต้น ค่ะ
ทุกวันนี้ชั้นมีความทุกข์ใจและพยายามดับทุกด้วยการปล่อยวางแต่ก็ไม่สามารถทำไดสำเร็จ
ผู้ชายคนที่คบอยู่เรายังไม่ได้แต่งงาน เขาเพิ่งย้ายออกจาบ้านไปสามเดือนได้แล้ว แต่ว่าเขาก็ไปๆๆมาๆตลอด ชั้นก็ถามเขาว่าจะกลับมาอยู่ด้วยไหมเขาบอกว่าคงไม่ แต่ว่าเขาก็ยังคงไปมาตลอด สิ่งที่ทำให้ชั้นทุกใจมากนั่น คือ สภาพที่เป็นอยู่ไม่อะไรกับเมียน้อยเลย จริงเขาก็ไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรหรอก บ้านที่อยู่ก็เช่าเขา ชั้นต้องจ่ายคนเดียวเดือนละเกือบหมื่นตลอด สามเดือนที่ผ่าน สองเดืนอที่แล้วเขาก็ช่วยค่าน้ำค่าไฟ แต่เดือนนี้คงไม่ ชั้นไม่รู้จะหาทางออกยังไง พยายามจะเลิกและมองหาคนใหม่ แตชั้นก็ไม่ได้มีเพื่อนเยอะมากมาย อยากให้พี่ช่วยหาทางออกให้หน่อยได้ไหมช่วยแนะนำให้หน่อย ว่าชั้นจะทำยังไง ชั้นไม่อยากร้องให้อีกต่อไปแล้ว ชั้นเหนื่อยใจมาก พยายามตัดแต่พอสุดท้ายมันก็ลงแบบเดิม
เพราะยังไงเขาก็ไม่เอาชั้นทำเมียเขาอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลหลักก็คือว่า บ้านเขาไม่ชอบชั้นเพราะว่าจน ไม่มีพ่อแม่เหมือนคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า
สามเดือนที่ผ่านมาชั้นก็พยายามหาทางออกเยอะมาก แต่สุดท้ายมันก็ลงแบบเดิม อีกอย่างชั้นไม่สามารถปรึกษาใครได้เลย เพราะว่าชั้นไม่มีใครเลย หลายคนอาจจะไม่เชื่อจริงๆน่ะค่ะ จะบอกว่าย่าชั้นเสียนานแล้วค่ะ มีญาติ่น้อง เขาไม่สนใจชั้นหรอกค่ะ
ทุกๆครั้งที่ชั้นเครียดมีความทุกข์ชั้นก็พยายามเข้าเวบนี้เพื่อสวดมนต์ฟังธรรม มันก็ช่วยได้แต่สุดท้ายก็เป็บแบบเดิมคือชั้นต้องทุกใจ
เวรกรรมอะไรหนอที่ชีวิตของชั้น อะไรก็ตามที่เป้นที่รักจะไม่มีวันอยู่กับชั้น
บอกตรงๆน่ะค่ะทุกวันนี้ชั้นทำบุญตลอดค่ะ
ทำใจเถอะค่ะ ใครไม่ดีก็อย่าไปเอา ชีวิตเรายังต้องเจอใครอีกมาก หากมีแล้วทุกข์ สู้ทุกข์เสียทีเดียวไม่ดีกว่าหรอ(เลิกค่ะ) ดีกว่าทุกข์แล้วทุกข์อีก พยายามหาอะไรทำ ทำงานเสร็จแล้วจะไปช้อปปิ้งก็ได้ ว่ายน้ำก็ดี หาอะไรก็ได้ทำ เหนื่อยก็นอน วันวันนึงก็จะเป็นเดือนแล้วก็เป็นปี จนสุดท้ายก็จะเหลือแค่ความทรงจำค่ะ
ขอบคุณค่ะ
อยากจะบอกว่าเหนือ่ยใจมากเหมือนกัน กับการไม่ชัดเจนอย่างนี้ บางทีก็แอบร้องให้ว่าทำไมเราไร้ค่าอย่างนี้แล้วเหรอ เที่ยวให้ผู้ชายทำเหมือนเราเป็นอะไรก็ไม่รู้ ก็ได้แต่คิดในใจว่าจะหาบ้านเช่าอยู่ใหม่ ไม่ต้องติดต่อกันอีกแล้ว เพราะยังไงยื้ออย่างนี้ เราเองราะเป้นฝ่ายที่เป็นทุกข์ อีกอย่างเขาก็ไม่ได้มารับผิดชอบอะไรเลย เพราะทุกอย่างตอนนี้เราต้องรับผิดชอบเอง หากเขามาอยู่ด้วย เราก็หารค่าเช่าบ้านกัน อย่างน้อยก็ลดค่าใช้จ่ายของตัวเองลงบ้าง ไม่ต้องมาแบกภาระแต่ละเดือนมากมายอย่างนี้ แล้วไม่ได้อะไรเลยนอกจากความเสียใจ แต่ติดตรงที่เป้นคนใจอ่อน พอเขามาคุยด้วยอะไรด้วยก็ยอมให้เขาเข้ามาในชีวิตอีกทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาคบกับเราเล่นๆเท่านั้น
ตอนนี้อายุก็ไม่ใช่น้อยๆๆแล้ว ก็ไม่อยากเสียเวลาเลย ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ
บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่สำหรับเราตอนนี้มันอาจจะเป้นปัญหาอันดับแรกเลย มันเว้งว้างเหลือเกินค่ะ บางทีก็คิด่ะค่ะ ว่าถ้าเรามีพ่อแม่แบบคนอื่นเขา อย่างน้อยก็พอมีหลักพึ่งพิงให้บ้าง ตอนนี้ก็พึ่งพระธรรมคำสอนเพื่อให้จิตใจคลายทุกข์ลงบ้าง
ค่ะ
สำหรับผมนะครับ บางกรณีที่ผมท้อผมจะมองคนที่ด้อยกว่า คนที่แย่กว่า ซึ่งผมคิดว่ายังมีคนอีกไม่น้อยที่แย่กว่าคุณ ตอนนี้คุณอาจคิดว่าไม่มีจุดหมายในชีวิต อยู่ไปวัน ๆ ใช่ครับผมก็คิด แต่ว่าคนอื่นก็เช่นกัน อยู่ไปวัน ๆเหมือนกัน หาเงิน หาความสุข แล้วตื่นมา หาเงิน หาความสุข เป็นเช่นนี้ตลอดตั้งแต่เกิดมา แต่ผมอยากให้คิดงี้ครับ คือเมื่อเราอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็นค่าของเรา แล้วเราจะอยู่ไปทำไมล่ะครับ (อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้มีชีวิตอยู่) แต่หมายความว่า ให้เราพยายามหาที่ที่มีคนเห็นความสำคัญของเรา เช่นใช้ความรู้ความสามารถที่คุณมีไปสอนเด็กที่เค้าไม่รู้ เช่นโครงการของมูลนิธิต่าง ๆ (อันนี้ผมก็เพิ่งเริ่มทำครับ) มันจะทำให้เราดูมีค่าขึ้น อย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นโดยที่เค้ายินดีรับ และเราก็ภูมิใจในฐานะที่เราเป็นคนสำคัญของคนกลุ่มนั้น นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ครับ และต่อไปคุณอาจพบทางเดินใหม่ในชีวิตคุณครับ ขอให้คุณโชคดี และมีความสุข
เกิดมาทั้งทีใช้ชีวิตให้คุ้มครับ แล้วก็การมีชีวิตอยู่ถ้ามันมีแต่ความทุกข์ตรม มันคงน่าเบื่อนนะครับ ดังนั้นควรทำทุกอย่างให้ตัวเองมีความสุขภายใต้พื้นฐานของศิลธรรมครับ
สวัสดีค่ะน้องเอมมี่.@^_^@
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส มักจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นพร่อง-ขาด อยู่เสมอๆ
จึงพยายามหาสิ่งที่ต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตามความชอบใจ ไม่ชอบใจ ซึ่งเหล่านี้
ก็คือตัณหา อันอยู่ในตัวเรานั่นเองนะค่ะ
น้องเอมมี่ เกิดมาท่ามกลางความรู้สึกที่ไม่เต็ม ขาดความรักความอบอุ่น ขาดการดูแล
และถูกทอดทิ้งจากพ่อแม่... ขาดความรักจากคุณย่าที่เป็นผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดที่สุด น้องเอมมี่คะ นี่คือวิบากกรรมของน้องนะค่ะ...น้องคงเคยไปกระทำการพลัดพรากสิ่งรักของเขา น้องอาจจะเคยไม่ใยดีไม่ได้ให้ความรัก ความอบอุ่นกับเขา.. จับพลัดจับพลู ชาตินี้ก็ได้มาเกิดและร่วมชะตากรรมในถิ่นแวดล้อมที่เคยเป็นอยู่...
กรรมนั้น ยุติธรรมเสมอนะคะ....ขอให้ยอมรับ อย่าโกรธ อย่าแค้นใคร ขอให้เมตตา
พ่อ แม่ คุณย่าของเรา ว่าท่านเหล่านั้น ก็มีกรรมเป็นของตนเอง ตัวน้องเอมมี่ก็เช่นกัน
ทั้งหมดทั้งสิ้น เป็นเพื่อนทุกข์ ที่ต้องเวียนเกิด เวียนแก่ เวียนเจ็บ เวียนตาย เวียนเศร้า
โศก เวียนผิดหวัง...ไม่รู้จักจบสิ้นในวัฏฏะสงสารค่ะ
ผู้ชายคนนี้ ก็ใช่ค่ะ..เพราะความรู้สึกขาด-พร่อง จึงแสวงหาใครสักคน ซึ่งผู้ชายคนนี้
ก็เวียนมาพบ ได้สนองความต้องการเพียงชั่วครู่ น้องก็ยังขาด พร่อง เพราะกิเลส
เพราะตัณหาอยู่ดี....
เบื่อรึยังคะ? ที่จะวิ่งไล่ตามความต้องการ(ตัณหา)ของเราที่ไม่มีสิ้นสุด ชาตินี้ รับรองได้ว่าไม่มีใครเติมเต็มความต้องการของตนเองได้หรอกค่ะ...
ดูคนรอบข้างซิคะ เราคิดว่าคนเหล่านี้มีครบแล้ว น่าจะมีความสุข ขอเพียงเหมือนครึ่งหนึ่งของเขาก็ดี เราก็คิดว่าเราคงมีความสุขแล้ว....
แต่น้องเอมมี่ลองดูลึกๆเข้าไปซิคะ...เขาเหล่านั้น ก็ยังแสวงหา ยังอยากเติมนั้นเติมนี่
อยู่ร่ำไป ยังทุกข์จากการหาสิ่งตอบสนองตนเอง
กิเลส-ตัณหาของมนุษย์นั้น เหมือนห่วงทะเล ที่น้ำเติมเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จักเต็มซะที
คนที่รู้ทันกิเลส รู้ทันตัณหา ก็ละ สิ่งเหล่านี้ได้ เขาจึงรู้สึกเต็ม ไม่รู้สึกขาดพร่องเลย
มีความสุข มีความพอใจอยู่ตัวเอง....เขาปฏิบัติเช่นไรหนอ?
สิ่งที่น้องเอมมี่ประสพมา นั้นล้วนเป็นผลจากอดีต...อดีตที่ไม่ควรหวลไห้อีก เพราะมัน
ผ่านไปแล้ว เหมือนสายน้ำไม่ย้อนกลับ ไม่มีประโยชน์ในการหวนรำลึกและเสียใจ
เสียดาย...มีแต่ปัจจุบัน ที่จะทำอย่างไร อดีตนี้จะไม่ซ้ำรอยให้มาเป็นวิบากแห่งทุกข์นี้อีก
น้องเอมมี่ต้องทำเหตุปัจจุบัน ให้เป็นแต่กุศล ให้เป็นบุญนะค่ะ ด้วยกาย วาจา ใจ
หมั่นสวดมนต์ อ่านหนังสือธรรมะ(ธรรมะจริงๆนะค่ะ ไม่ใช่หนังสืออิทธิปาฏิหารหรือ
ขายพระเครื่องที่หลอกๆกัน) หาเวลาเข้ามาศึกษา และปฏิบัติธรรม จนกระทั่งทำ
ตนให้เป็นที่พึ่งของตนได้ โดยไม่ต้องแสวงหาพึ่งคนอื่นที่ไม่แน่นอน ไม่เที่ยง
ถึงเวลานั้น กุศลผลบุญจะตอบสนองในสิ่งดีงามต่อน้องเอมมี่เองนะค่ะ
เจริญในธรรมค่ะ
ลองอ่านบทความนี้ดูนะครับ
ดีใจมากๆ เลิกรักอดีตแฟนคนนี้ได้แล้วค่ะ
ถึงเธอคนนั้น
ตั้งแต่วันที่เธอบอกเลิก นั่นก็คือวันที่เธอปล่อยฉันออกจากกรงใจของเธอแล้ว เธอไม่ได้ขังฉันไว้หรอก เป็นฉันเองที่ไม่ยอมจากกรงไปไหน เพราะหลงไหลคิดว่ากรงนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของฉัน มันเป็นของของฉันฉะนั้นเธอจะไล่ฉันไปไหนไม่ได้ ฉันดื้อดึงเพื่อทวงสิทธิ์ที่จะอยู่อาศัยในกรงของฉันเหมือนเดิม แต่เธอรับคนอื่นเข้ามาอยู่ในกรงนั้นแล้ว ฉันไม่สามารถจะแทรกตัวเข้าไปได้อีก ฉันโกรธฉันแค้น เธอเอาของของฉันไปยกให้คนอื่นได้ยังไง ฉันตามทวงใช้ทั้งเล่ห์ทั้งกลจะว่ารวมถึงมนต์คาถาก็ว่าได้ ทั้งไม้แข็งไม้อ่อนถูกงัดออกมาใช้จนหมด บางครั้งเหมือนเธอจะใจอ่อน ฉันก็มีความหวังว่าเธอจะคืนกรงให้ฉัน แต่สุดท้ายฉันก็ต้องยอมรับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงทุนทำไปนั้นมันไม่มี ประโยชน์เลย เธอไม่มีทางคืนกรงให้ฉัน ฉันไม่มีที่อยู่อีกต่อไปแล้ว ฉันจะทำยังไงดี หากรงใหม่หาเจ้าของใหม่ดีมั๊ย? น่าจะดีนะถ้าฉันพึ่งตัวเองไม่ได้ แต่ ฉันเป็นคนนะ ฉันมีศักยภาพสามารถพึ่งตัวเองได้ดีกว่าไปรอพึ่งใครซะอีก เพียงแต่ฉันไม่เคยพยายามจะเข้มแข็ง ในอดีตสิ่งที่ฉันพยายามก็คือ พยายามออดอ้อนให้คนอื่นตามใจและทำอะไรๆ ให้ฉัน เพื่ออะไรก็ไม่รู้ ในวันนี้ฉันก็แค่ลองทำทุกสิ่งด้วยตนเองดู จะได้รู้ว่าเคยทำให้คนอื่นเดือดร้อนมามากแค่ไหน แล้วในที่สุดฉันก็รู้ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนที่ดีที่สุด วันนี้ฉัน รู้แล้วว่าการพึ่งตัวเองได้นั้นมีความสุขมากแค่ไหน ฉันไม่ต้องรอให้เธอหาเวลาว่างมาจูงฉันไปเที่ยว ฉันไม่ต้องรอคอยอาหารอร่อยๆจากเธอ ถ้าฉันป่วยฉันก็ไม่ต้องนอนทรมานรอให้เธอเป็นคนพาไปหาหมอ ตอนนี้ฉันมี อิสระแล้ว ถ้าฉันว่างฉันก็ไปเที่ยวไปเล่นที่ไหนก็ได้ ถ้าฉันหิวฉันก็ซื้อของกิน ถ้าฉันป่วยฉันก็ตะเกียกตะกายไปหาหมอ ถ้าฉันทำอะไรไม่ได้ดังใจตัวเองฉันก็ไม่ต้องมางอนมาง้อตัวเอง เพราะฉันยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันหามาให้ตัวเองได้ และสิ่งที่ฉันหามาให้ตัวเองนั้นก็ดีกว่าของที่เธอเคยให้ฉันมากมายนัก แต่ ฉันก็เข้าใจนะว่าเธอเคยต้องเสียเงินเสียเวลามาตามใจฉัน คงทำให้เธอขัดเคืองใจมามากพอสมควร ฉันไม่โกรธไม่แค้นเธอแล้วหล่ะ เพราะฉันรู้แล้วว่าเธอลำบากกับการพยายามทำทุกอย่างให้ถูกใจฉันมามากแค่ไหน ฉันมันเลี้ยงยาก เธอจึงไม่อยากเลี้ยง เธอคงคิดว่าอีกคนนึงคงจะเลี้ยงง่ายกว่าฉันละสิ มันก็ไม่แน่ เธอก็ลองดูก็แล้วกัน แต่สำหรับฉัน ฉันเจอเจ้าของที่ดีที่สุดแล้ว เขาผู้นั้นก็คือตัวฉันเองที่รู้ใจและตามใจฉันได้ดีที่สุด สุดท้ายฉัน อยากจะบอกเธอว่า ฉันไม่อยากได้กรงใจของเธอแล้วนะ เธอจะเอาไปยกให้ใครก็แล้วแต่เธอ ฉันไม่หวังไม่รอคอยวันเวลาที่จะกลับไปนอนขดอยู่ในกรงใจแคบๆของเธออีกแล้ว เพราะตอนนี้ฉันได้นอนแผ่หราบนเตียงนุ่มๆแอร์เย็นๆที่บ้านอันแสนกว้างใหญ่แสน สุขสบายพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆนาๆของฉันเองแล้ว แถมยังอยู่ใกล้ถนนใหญ่ รถไฟฟ้า และเรือด้วยนะ
ลาที กรงอันแสนคับแคบ
เข้าไปอ่านเรื่องทั้งหมดที่นี่ครับ:
http://larndham.net/index.php?showtopic=32792&st=24
ขอให้หายทุกข์ไวๆครับ
3,937