เชิญร่วมมหากุศล ซื้อที่ดินสร้างวัด
ขอเชิญสาธุชน ร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคปัจจัย ซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัด ถวายเป็นพุทธบูชา
ณ สำนักสงฆ์สามัคคีธรรม(ธรรมานันทสถาน)ธรรมยุต ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัภูมิ
เนื่องด้วย ในเขตอำเภอคอนสาร มีวัดอยู่จำนวนน้อย อีกทั้งอาณาเขตของแต่ละวัดก็มีจำกัด ทำให้ไม่เพียงพอและสะดวกต่อการประกอบศาสนกิจ ของพระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
ดังนั้น ในการนี้ จึงขอเรียญเชิญผู้มีจิตศรัทธา ร่วมมหากุศลในครั้งนี้ ด้วยการเป็นเจ้าภาพสมทบทุนซื้อที่ดิน เพื่อสร้างวัด ณ ตำบลห้วยยาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ-ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมสำหรับพระภิกษุสงฆ์ และพุทธบริษัท ตลอดถึงใช้เป็นสถานที่อนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีด้วย
อนึ่ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เเด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดถึงถวายเป็นพระกุศลบูชาคุณ เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่จะทรงเจริญชนมายุ ครบ ๑๐๐ พรรษา ในปีพุทธศาศักราช ๒๕๕๖ ด้วย
ดูภาพกิจกรรมของสำนักสงฆ์ได้ที่
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002506859202
ท่านผู้มีจิตศรัทธา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
พระมหานเรศ สาริสฺสโร (เรขาโชค)
Email:
[url][url][url][url][url]thamma-nantha@hotmail.com[/url[/url[/url[/url[/url]]]]]
โทร: 02-7141975 หรือ 087-8076246
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างมหากุศล โอนปัจจัยสมทบทุน ได้ที่
ธนาคารกรุงไทย
สาขาร้านสหกรณ์กรุงเทพ(เอกมัย)
เลขที่บัญชี 970-0-02452-0
ชื่อบัญชี พระมหานเรศ เรขาโชค(ทุนสร้างวัดสามัคคีธรรม)
ท่านที่โอนปัจจัยเข้าบัญชี โปรดเเจ้งชื่อ-นามสกุล
ไปยัง Email;
thamma-nantha@hotmail.com
ขออนุโมทนาท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมมหากุศลทุก ๆ ท่าน
อานิสงส์การถวายที่ดิน
การถวายที่ดินไว้ในบวรพุทธศาสนานั้นนับว่าเป็นการทำบุญในฝ่ายวัตถุทานที่มี อานิสงส์มาก และผู้ที่ทำบุญถวายที่ดินนี้นับว่า เป็นผู้ที่มีความฉลาดและโชคดีเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะผลทุกอย่างที่จะบังเกิดขึ้นหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็น กุฏิ โบสถ์ วิหาร หรือแม้แต่พระพุทธรูปทุกๆองค์ในวัด ตลอดจนผลแห่งธรรมทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นในศาสนสถานหลังจากที่ได้ซื้อที่ดิน ถวายนี้ ผู้นั้นจะได้รับผลแห่งกุศลดังกล่าวทั้งหมด เพราะทุกอย่างล้วนปลูกสร้างหรือบังเกิดมีขึ้นได้ก็ด้วยผืนแผ่นดินที่เราได้ เป็นผู้สร้างถวาย โดยเฉพาะเมื่อสถานที่แห่งนั้นได้เป็นสถานที่เป็นเหตุปัจจัยแห่งการสร้าง สาธุชน และเป็นเหตุให้บังเกิดพระอริยะบุคคล อันมีพระโสดาบันเป็นต้น ตลอดจนถึงพระอรหันต์เป็นที่สุดแล้วนั้น ผู้ที่มีส่วนร่วมในการซื้อที่ดินถวายในบวรพุทธศาสนาแห่งนั้นก็จักได้รับ อานิสงส์ดังกล่าวด้วย ยังจะเป็นบุญหนุนนำทำให้ผู้นั้นเจริญด้วยทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไป หากจักปรารถนาพระนิพพานในปัจจุบันชาติ หากผู้นั้นสามารถทำกำลังใจเต็มบริบูรณ์ทั้ง 10 ประการแล้ว การหวังซึ่งพระนิพพานในปัจจุบันชาติก็มิใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จึงจักได้ขอกล่าวอานิสงส์ส่วนหนึ่ง อันจะบังเกิดจากการได้ถวายที่ดินเพื่อสร้างวัดหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรม ให้สาธุชนทั้งหลายได้มาทำความดี ทั้งการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ดังได้เรียบเรียงมาดังนี้
1. จักได้เกิดในถิ่นที่เป็นปฏิรูปเทส เหมาะแก่การทำความดี สร้างบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป
2. ทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ไม่มีตกต่ำ
3. มีความรื่นรมย์ทั้งในโลกมนุษย์และเทวโลก
4. ปรารถนาสิ่งใดที่เป็นบุญกุศล ย่อมสำเร็จได้โดยง่าย เป็นอัศจรรย์
5. ได้รูปกายที่สวยงาม เพียบพร้อมบริบูรณ์ด้วย รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ
6. ได้เป็นเทวดาที่มีศักดิ์ยิ่งใหญ่ มีทิพยสมบัติที่รุ่งเรือง ตลอดจนมีทิพยวิมานอันใหญ่โต และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล
7. มีความสง่างามเป็นที่เคารพนับถือศรัทธาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
8. มีพร้อมด้วยสุข 3 ประการ เข้าถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้โดยง่ายและมีพระนิพพานเป็นที่ตั้งโดยไม่เนิ่นช้า
9. จะได้เป็นใหญ่เป็นโต เป็นผู้ปกครองแผ่นดินหรือผู้บริหารประเทศ เกิดในภายภาคหน้าจะมีที่ดินเป็นของตนเอง และเป็นที่ดินที่มีทำเลดี เป็นที่ต้องการของคนทั้งหลาย เราจะไม่ต้องเร่ร่อน ไม่อดอยาก
10. ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนแผ่นดินนั้นก็จะเจริญงอกงาม เหมาะแก่การประกอบสัมมาชีพตามปรารถนา เป็นทำเลดีค้าขายก้าวหน้า ปลูกพืชให้ดอกให้ผลงอกงามกว่าที่ใดๆ
การทำบุญที่ที่นับว่าเป็นมหากุศล
การทำบุญ
ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญมาก ต้องทำบุญถูกที่ ถูกเวลา ตรงกับความต้องการ และสิ่งที่ทำบุญจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับคนส่วนมาก วัดเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นศูนย์รวมจิตใจในการทำความดี การทำบุญเพื่อสร้างวัด จึงได้อานิสงส์เป็นอย่างมาก เพราะเงินที่ทำบุญมีส่วนให้วัดสำเร็จได้ ถ้าไม่มีเราวัดคงจะสำเร็จไม่ได้ และที่สำคัญเป็นการสืบทอดพุทธศาสนาให้คงอยู่ ไปอีกนานเท่านาน
ผลแห่งการทาน จะสมบูรณ์ได้อย่างไร
ใจความว่า พระศาสดาได้เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร แห่งกรุงสาวัตถี มีมาณพคนหนึ่งเป็นช่างทองทำการขายทองรูปพรรณอยู่ในกรุงสาวัตถีนั้น จนมั่งมีโภค ทรัพย์สมบัติมากอยู่มาวันหนึ่งมาณพนั้นมาคิดว่า เราค้าขายทองก็มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ทรัพย์ที่หามาได้โดยยาก ก็ไม่อยากจะให้สูญหายไปโดยเร็ว ตริตรองหาวิธีที่จะเก็บทรัพย์ให้ได้อยู่นาน ก็ไม่พบวิธีที่จะป้องกันความเสื่อมเสียของทรัพย์ได้ เพราะว่าทรัพย์เป็นของกลางเป็นเครื่องอาศัยของคน ทุกคน สุดแล้วแต่ใครจะขยันหมั่นเพียรหามาได้เท่านั้น ถึงแม้จะหามาได้มากก็ดี ถ้าขาดปัญญาเป็นเครื่องรักษาทรัพย์แล้วทรัพย์นั้นก็ไม่คงทนอยู่ได้ แม้จะอยู่ได้ตลอดไปตนเองก็มีชีวิตยืนนานที่จะบริโภคต่อไปไม่ได้ เพราะความตายย่อมมาพรากตนให้หนีไปเสียจากทรัพย์เมื่อสิ้นชีพแล้วทรัพย์เหล่านั้น ก็ไม่ ติดตามตนไปปล่อยไว้ให้คนอื่นเขาใช้สอยอย่างสบาย เห็นมีอยู่แต่อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะติดตามตัวไป ในอนาคต คือฝังทรัพย์ไว้ในพุทธศาสนาเมื่อคิดเช่นนี้แล้วก็คิดดูว่าจะทำอะไร สิ่งอื่น ๆ ก็มีผู้ทำไว้หมด แล้ว ก็เห็นแต่เวจกุฎีเท่านั้นที่ยังไม่มีใครทำเลย
เมื่อคิดเช่นนี้แล้วจึงได้สร้างขึ้นเมื่อสำเร็จแล้วยังได้สร้างโรงไฟ แลที่สำหรับอาบน้ำอีกด้วย เมื่อเสร็จสรรพดีแล้ว ก็ทำการฉลองอย่างมโหฬารและมอบถวายแก่ ภิกษุสงฆ์ มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประธานแล้วตั้งปฏิธานความปรารถนาว่าข้าแต่ท่านผู้ เจริญ เมื่อข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานตราบใด ขึ้นชื่อว่าความทุกข์อันเกิดแต่โรคต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้วพานต่อข้าพเจ้าเลย อิมินาทาเนน ด้วยอำนาจผลทานนี้พระสารีบุตรก็อนุโมทนาว่า ขอให้ความปรารถนาจงเป็นผลสำเร็จเถิดมาณพนั้นเป็นผู้ไม่ประมาทผลทาน ให้สมาทานศีลครั้นทำกาลกิริยาตายไปแล้วไปเกิดบนสวรรค์เทวโลก มีสมบัติวิมานทอง มีเทพอัปสรเป็นยศบริวาร อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้ง หลายนั่งสนทนา ถึงมาณพผู้นั้นอยู่พระศาสดาเสด็จมาถึงในที่นั้นแล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอ นั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบ
พระองค์ทรงแสดงธรรมเทศนา แก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นว่าดูกรภิกษุทั้งหลายนรชนทั้งหลายเกิดมาได้พบพระพุทธเจ้าและในขณะที่พุทธศาสนายังประดิษฐานอยู่ จะเป็นผู้เศร้าโศกในอบายภูมิ เป็นจำนวนมากมาณพที่เป็นช่างทองนี้ได้พบทั้งสองประการแล้วไม่เป็นผู้ประมาท ได้สร้างเวจกุฎีถวายบูชาพระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวยสุขในสุคติโกลสวรรค์ และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้าทรงพระถามว่าตัณหังกร เราตถาคตก็เคยสร้างเวจกุฎี(ห้องส้วม) และที่สำหรับอาบแก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้งสัตยธิษฐานว่า ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยผลแห่งอานิงส์ ที่ข้าพระองค์ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ตถาคตครั้นทำลายขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวย ทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจากชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัส เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือตถาคตนี้เอง ก็สมดังคำปรารถนาในครากาลครั้งโน้นทุกประการ
เมื่อจบ พระธรรมเทศนาจบลงแล้วชนทั้งหลายเป็นอันมากได้ดวงตาเห็นธรรม ต่างก็รื่นเริงบันเทิงใจในเวจกุฎี เป็นยิ่งนัก
3,316