อัญเชิญ “พระทันตธาตุ” ให้คนภูมิภาคสักการะ
วันนี้ ( 7 ธ.ค.) น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักภูฏาน ทรงพระราชทานให้อัญเชิญพระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ที่ประดิษฐานไว้ในพระราชวัง ให้มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้สักการะ ซึ่งขณะนี้ได้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐานไว้ที่สนามหลวงในงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.
น.พ.สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากวันที่ 9 ธ.ค. แล้ว จะมีการทำเรื่องแจ้งไปยังกรุงเทพมหานคร เพื่อขอประดิษฐานไว้ที่สนามหลวงอีกจนถึงสิ้นปี 2554 เพื่อให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้มีโอกาสเดินทางมาสักการะ หลังจากนั้นในช่วงปี 2555 จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุไปยังภูมิภาคต่างๆทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสสักการะด้วย โดยช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2555 จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 16 วัน จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จังหวัดขอนแก่นเป็นเวลา 12 วัน และจะอัญเชิญไปประดิษฐานที่จังหวัดสงขลา ก่อนที่จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุกลับประเทศภูฏานในวันที่ 18 ก.พ. 2555
“พระทันตธาตุนี้ แม้แต่ประชาชนชาวภูฏานเองยังไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไปสักการะบ่อยๆ เพราะทางภูฏานมีการเก็บรักษาพระทันตธาตุไว้เป็นอย่างดี จะเปิดให้ประชาชนภูฏานสักการะได้เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น คือวันที่ 20 ก.พ. ของทุกปี ซึ่งเป็นวัน ดราก้อน เยียร์ ของทางภูฏาน จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้สักการะพระทันตธาตุ และนับว่าเป็นครั้งแรกในโลกที่ทางประเทศภูฏานยอมให้มีการอัญเชิญพระทันตธาตุออกนอกประเทศ” น.พ.สุรวิทย์ กล่าว
วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554 เวลา 16:58 น.