กรรมต่าง ๆ ซับซ้อนกันอยู่มากมาย



คนเรานั้นได้ทำกรรมต่าง ๆ ซับซ้อนกันอยู่มากมาย
ทั้งในอดีตและชาตินี้
เมื่อเกิดมาในชาตินี้
บางทีกระทำดีต่าง ๆ อยู่แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับผลดี
ทั้งนี้ก็หาใช่ว่ากรรมดีที่ทำไว้นั้นจะไม่ให้ผล
แต่ก็เพราะว่ากรรมไม่ดีที่ทำไว้แต่ชาติก่อนให้ผลจึงรับผลที่ไม่ดี
กรรมดีที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ก็จะให้ผลในเวลาต่อไป
หรือบางคนทำกรรมชั่วในปัจจุบันแต่ก็ปรากฏว่าได้รับผลดี
ผลดีที่ได้รับนั้นไม่ใช่เป็นผลของกรรมชั่วที่ทำอยู่
แต่เป็นผลของกรรมดีที่ได้กระทำไว้ก่อน
เมื่อหมดผลของกรรมดีแล้วผลของกรรมชั่วก็จะปรากฏขึ้น
เขาก็จะเข้าถึงทุกข์

กุศลกรรมที่ประกอบในชาตินี้
ถ้ากรรมเก่าซึ่งเป็นอกุศลกรรมยังส่งผลหรือมีกำลังแรงกว่า
ก็ต้านทานอกุศลกรรมได้ยาก
ไม่ต้องมองดูให้ไกลออกไป
แต่มองดูกุศล อกุศลกรรมในจิตใจในบัดนี้

เช่น บุคคลหนึ่งมีเจตนาแน่วแน่ในการประกอบกุศลกรรม
เพื่อประโยชน์สุขสำหรับส่วนรวม
ขณะเดียวกันก็มีบุคคลอีกคนหนึ่งหรือหลายคน มีจิตริษยาเสียแล้ว
ทั้งที่ก็มีจิตอยากจะทำดีเหมือนกัน
แต่อยากจะทำดีเพื่อให้ดีแต่ผู้เดียว
ตัวอย่างนี้เห็นได้ว่าความอิจฉาริษยายังมีอำนาจแรงอยู่
แสดงว่าอกุศลกรรมฝ่ายความริษยายังมีอำนาจแรงกว่า
ทั้ง ๆ ที่วัตถุประสงค์ในด้านกุศลกรรมก็มีอยู่ตรงกัน
ไม่ต้องกล่าวถึงบุคคลที่ปราศจากเหตุผล
จิตคิดจะทำดีมีแต่อิจฉาริษยาเท่านั้น เป็นผู้ทำลายโลกโดยแท้

ฉะนั้น จึงมีความจำเป็นต้องฝึกฝนตนเองให้มีกุศลกรรมให้มากขึ้น
เช่น ถ้าเป็นคนมักริษยาคนอื่น ก็ต้องหัดทำมุทิตาจิต
คือ ตั้งใจหัดใจทำความยินดีในกุศลกรรม
ในความสุขความเจริญของผู้อื่นอยู่เสมอ
เมื่อกุศลกรรมฝ่ายมุทิตานี้เจริญมากขึ้น
อกุศลกรรมฝ่ายริษยาก็จะลดลงจนหายไปได้
จะทำให้เกิดความคิดส่งเสริมทุกคนผู้ประกอบกุศลกรรม
เพื่อให้สำเร็จผลเร็วยิ่งขึ้น

เราทุกคนมีกรรมดีกรรมชั่วติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติ
ผลของกรรมเหล่านั้น ก็ทำให้เราเกิดในครอบครัวต่าง ๆ
จน มี ดี ชั่ว ฉลาด โง่ สวย ไม่สวย

ความพิการทางร่างกายและจิตใจของมนุษย์
จะเป็นผลของกรรมเช่นกัน
เพราะไม่มีใครเกิดมาอยากพิการ หูหนวก ตาบอด แขนด้วน
ง่อยเปลี้ย จิตใจไม่ปกติ ไม่สมประกอบ หรือปัญญาอ่อน เป็นต้น

...เมื่อเราเข้าใจและเชื่อในท่านผู้รู้ (พระพุทธเจ้า) ว่าที่เราเป็นอย่างนี้
ดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็เพราะกรรมที่เราได้ทำมา
ก็ควรพยายามทำกรรมดีเพื่อความสุขความเจริญของเราในภายหน้า...

ผู้ที่ประกอบกรรมดีอย่างหนักและบ่อย ๆ
กรรมดีนี้อาจชนะกรรมชั่วที่เบาที่ได้ทำไว้ในอดีต

กรรมที่สำคัญที่ ๑ คือ ทางใจ
ควรฝึกใจให้มีความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ไม่ให้มีอิจฉาริษยา ไม่เบียดเบียน ไม่นินทา ไม่พยาบาท เป็นต้น
การกระทำที่ไม่ดีทางกาย และทางวาจา ก็จะลดน้อยลงจนหมด
มีจิตใจการปฏิบัติสะอาด นั่นแหละคือความสุขที่แท้จริง

:: สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
   

5,222







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย