โพธิสัตว์ฉัททันต์คำกลอน ภาคจบ ประพันธ์โดย สืบ ธรรมไทย
ฝ่ายพรานไพร หลังไห้ครวญ ชวนพลกลับ
ไม่ติดขัด ตัดลัดดง ตรงที่หมาย
เจ็ดวันถึง ซึ่งธานี ศรีไผท
อย่างปลอดภัย ไร้ข้องขัด อัศจรรย์
เข้าหมอบกราน ภูบาลเจ้า เล่าถวาย
เรื่องมากมาย รายผ่าน อย่างแข็งขัน
พร้อมน้อมกร ยื่นสองงา มากำนัล
แด่จอมขวัญ กันยา ชายาไท
แล้วเล่าความ ตามคำ ฉัททันต์สาง
แด่จอมนาง สารพารณ ยังหลงใหล
มั่นในรัก ภักดี มีไม่คลาย
ไม่แหนงหน่าย กลับกลายรัก ซื่อสัตย์นาง
หวังเทวี มีสวัสดิ์ คอยรักษา
บุญหนุนพา สถาพร อย่าหมองหมาง
กายผ่องใส ไร้ทุกข์ สุขสราญ
ตลอดกาล นานปี อย่ามีคลาย
จงอโห สิกรรม สารพลั้งผิด
คลายทิฐิ จิตแค้นเดือด ให้เหือดหาย
ละจองเวร กเรนทร์สาง เรื่องหมางคลาย
ให้อภัย ในผู้เขลา เจ้าฉัททันต์
ขอนอบน้อม สองงาคู่ พธูเจ้า
โปรดรับเอา บรรเทาแค้น แม้นอาสัญ
ถึงตายยอม พร้อมให้ ไม่อินัง
หวังงามขำ สำราญรื่น สารชื่นใจ
เมื่อนั้น.... โฉมนงราม งามจิต ขนิษฐา
ยินวาจา พรานป่าแจ้ง แถลงไข
โศกอาดูร พูนเทวษ สังเวชใจ
ให้อาลัย ในทันตี สามีตน
หวนคำนึง ถึงชาติผ่าน ติดตามเฝ้า
เคียงสารเจ้า เหล่าดำไร ใจสุขสม
ท่องเที่ยวป่า พนาไพร ไร้กังวล
เพลินดอมดม ยลโกสุม ปทุมมาลย์
สายเหนื่อยนัก พักนิโครธ ลมโกรกชื่น
บ่ายแก่ตื่น เริงรื่นชล ลงสนาน
เล่นน้ำใส ให้สนุก สุขสำราญ
ค่ำเหล่าสาร พารณะ พำนักไทร
ทุกวันคืน ดื่มสุข ทุกข์นิราศ
แนบขนาบ แทบบาทข้าง ไม่ห่างหาย
เคล้าพะนอ คลอคู่ อยู่เคียงกาย
ให้ใจหาย ไม่วายคิด จิตระกำ
ยิ่งตรองตรึก สำนึกทำ ก่อกรรมผิด
เป็นบาปติด สนิทตรึง จึงโศกศัลย์
ถอนสะอื้น รื้นน้ำตา นองหน้าพลัน
ยิ่งหวนหลัง ประดังเศร้า เผาข้างใน
กอดงาใหญ่ ไห้กำสรวล ร้องครวญคร่ำ
พร่ำรำพัน ระกำหม่น เกินข่มสลาย
สุดจักยั้ง รั้งจิต คิดผ่อนคลาย
องค์โฉมฉาย ทรุดกายพับ ชีพดับพลัน
บัดนั้น....ท้าวกาสี ฤดีหาย ทรามวัยจาก
ครวญพิลาป ยากทน ตรมโศกศัลย์
โสณุดร มองร่างนาง พลางจาบัลย์
บังคมทาบ บาทราชัน หันจากลา
องค์มุนินทร์ สิ้นดำรัส ตรัสเท่านี้
หยุดวจี พาทีจบ หมดเนื้อหา
ถึงชาดก คชสาร แต่นานมา
เหล่าเถรา นุเถระ คับข้องใจ
เห็นเมธี มีแสดง แย้มพระโอษฐ์
ไม่ตรัสโปรด โจษเอ่ย เฉลยไข
จึงอาราธน์ จอมปราชญ์เอ่ย เผยความนัย
เหตุไฉน ไยไม่ตรัส กลับยิ้มพราย
พระทศพล ทรงฟัง ซึ่งคำถาม
จึงประทาน ถ้อยความอรรถ ข้องขัดหาย
บอกบริษัท จับจ้อง มองหันไป
ยังเถรี ที่ร้องไห้ ไม่อายคน
องค์ชายา สุภัททา มารศรี
คือเถรี มีน้ำตา หน้าหมู่สงฆ์
ส่วนพรานไพร รับใช้นาง ผลาญพารณ
คือเทวทัต ผู้หลงตน จนงมงาย
ท้าวฉัททันต์ ดำรี ที่สละ
ยอมให้ตัด งาไป ให้โฉมฉาย
จนร่างตน ต้องถมดิน สิ้นชีพวาย
คือตถาคต ผู้ยอมตาย ไม่คลายธรรม
จบชาดก สุคตกล่าว เหล่าวงศ์สงฆ์
แต่ละองค์ ทรงธรรม ดั่งใจหวัง
ละสังโยชน์ ลดโกรธได้ ไม่อินัง
ต่างได้โสดาบัน กันหลายองค์
ฝ่ายอนงค์ องค์เถรี ที่ปรารภ
ฟังชาดก กำหนดใจ ไม่ใหลหลง
ครุ่นดำริ ทิฐิคลาย หายกังวล
จิตหลุดพ้น ทรงอรหันต์.....ในทันใด
สืบ ธรรมไทย
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓