หากจะเปรียบว่าเรากำลังอยู่ในสงคราม ก็เป็นสงครามกลางเมืองซึ่งมีคนที่เรารักอยู่ทั้งสองฝ่าย
"คำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายวัดป่ามักจะมีอุปมาเกี่ยวกับการต่อสู้ กิเลสทั้งหลายเปรียบเป็นศัตรูคู่อาฆาต โหดร้าย เจ้าเล่ห์ ไร้ยางอาย ผู้เจริญสมาธิภาวนาต้องฆ่ากิเลสให้ตาย หรือถ้าใช้อุปมาจากการชกมวย อย่างน้อยก็ต้องน็อกคู่ต่อสู้ให้ตกสังเวียน
การกล่าวถึงการปฏิบัติธรรมในลักษณะนี้ก็สมเหตุสมผล เนื่องจากผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นพระภิกษุในวัยฉกรรจ์ ภาพอุปมาของนักรบทางจิตมีพลังมากต่อพระภิกษุวัยหนุ่ม อาตมาเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นและได้รับแรงบันดาลใจที่เหมาะกับวัยอยู่หลายปี
อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุมากขึ้น อาตมาเริ่มมองกิเลสในมุมที่ต่างออกไป ทุกวันนี้ อาตมาเห็นประโยชน์ของการพิจารณาว่า กิเลสตัวที่ดื้อรั้นกว่าตัวอื่นๆ ดูจะตอบสนองความต้องการลึกๆ ในใจเราได้อย่างไร หากจะเปรียบว่าเรากำลังอยู่ในสงคราม ก็เป็นสงครามกลางเมืองซึ่งมีคนที่เรารักอยู่ทั้งสองฝ่าย
เราต้องกำหนดว่า อะไรคือความต้องการในจิตใจที่กิเลสตัวนั้นดูจะตอบสนองเราได้ ทำอย่างไรจึงจะละความต้องการนั้นได้ ทำอย่างไรจึงจะตีโอบล้อมหรือหาอะไรมาทดแทนความต้องการนั้น การพิจารณาแบบนี้มิได้มาแทนที่การเจริญสมาธิภาวนา แต่ส่งเสริมกันและกัน"
ธรรมะคำสอน โดย พระอาจารย์ชยสาโร