คนส่วนมากถูกสังคมหล่อหลอม แต่คนที่มีโยนิโสมนสิการจะกลับเป็นผู้เปลี่ยนวิถีของสังคม
สังคมกำหนดคน หรือคนกำหนดสังคม อันนี้พูดได้เป็นแง่ ๆ โดยสัมพันธ์กับเรื่องที่พูดมาแล้ว
ในแง่หนึ่ง สังคมกำหนดคน และคนส่วนใหญ่จะถูกสังคมกำหนด เพราะว่าสังคมนั้นหล่อหลอมชีวิตบุคคลด้วยปรโตโฆสะ ด้วยการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม และสื่อมวลชนก็มีบทบาทสำคัญอย่างที่ว่ามาแล้ว คนส่วนมากถูกสังคมหล่อหลอม
แต่คนที่มีโยนิโสมนสิการจะกลับเป็นผู้เปลี่ยนวิถีของสังคม และกำหนดสังคมได้ คนที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสังคมนั้น ก็คือ ผู้มีโยนิโสมนสิการ ฉะนั้น มันมีตัวปัจจัยที่คู่กันอยู่ ไม่ต้องกลัว
ในแง่หนึ่ง สังคมกำหนดคน และโดยทั่วไป คนส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น
แต่ถ้าคนมีโยนิโสมนสิการ โยนิโสมนสิการนั้นก็จะเป็นทางออกของบุคคลจากการถูกสังคมหล่อหลอมกำหนด และบุคคลก็กลายเป็นผู้เปลี่ยนวิถีของสังคมได้
ข้อคิดควรคำนึงในที่นี้ ก็คือ ถ้าการศึกษาทำได้แค่ปล่อยให้คนเป็นผลิตผลของสังคมอย่างเดียวแล้ว การศึกษาก็จะมีคุณค่าและความหมายน้อย คือทำหน้าที่บกพร่อง
การศึกษาที่แท้ จะต้องสามารถทำให้คนมีอิสรภาพ สามารถเป็นปัจจัยที่นำสังคมไปสู่ความดีงาม การศึกษาปลดปล่อยคน และคนก็ปลดปล่อยสังคม
หนังสือ การศึกษา: มองเมื่อ ๓๐ ปีก่อน
โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต)