การไม่ซื่อตรงต่อตัวเองนั่นแหละเป็นใจความสำคัญขั้นต้น ขั้นแรกของความเสื่อมเสีย หรือความเสียหาย หรือความไม่เจริญรุ่งเรืองโดยประการทั้งปวง


สัจจะ

นี่เราจะเห็นได้ว่า เราหนีไปไม่ค่อยรอดกับการเสียสัจจะ ตั้งใจไว้ว่าจะทำอะไร ก็เพียงแต่สักว่าตั้งใจ ประเดี๋ยว เดี๋ยว ก็ลืม พอมีอะไรมายั่ว มาล่อ มาหมุน ให้ติดใจหันเหไปในทิศทางอื่น ลืมความตั้งใจนั้นเสีย นี้ มันก็เป็นการไม่ซื่อตรงต่อตัวเองส่วนหนึ่งแล้ว เริ่มตั้งต้นแล้ว

ทีนี้ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า อ้าว อย่างนี้มันผิด เคยคิดว่าจะไม่ทำ แต่แล้วก็ฝืนทำลงไปได้ ทำผิด ทั้งรู้รู้ นี่ เป็นการคดโกงต่อตัวเองเต็มที่ ศีล เศีล อะไรต่าง ๆ ขาดไปหมด เพราะการคดโกงต่อตัวเองอย่างนี้

ดูให้ดีเถิด แม้แต่การฆ่า การลัก การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การดื่มน้ำเมา หรืออะไรก็สุดแท้ ทุกอย่างที่เป็นการกระทำผิด กระทำชั่วแล้ว นั้นเป็นการคดโกงต่อตัวเองทั้งนั้น

เช่น ไปเบียดเบียนเขา ไปฆ่าเขา มันเป็นการทำลายตัวเองให้เป็นคนชั่ว คนเลว มันเป็นการทรยศ กบฏต่อตัวเองอยู่ในตัวแล้ว เพราะ
ฉะนั้น การทำผิด ๆ ทุกอย่างนั้น เป็นการคดโกงต่อตัวเองอยู่ในตัวด้วยกันทั้งนั้น

นี่จึงเป็นอันว่า การไม่ซื่อตรงต่อตัวเองนั่นแหละเป็นใจความสำคัญขั้นต้น ขั้นแรกของความเสื่อมเสีย หรือความเสียหาย หรือความไม่เจริญรุ่งเรืองโดยประการทั้งปวง การผลัดเพี้ยนเวลาต่อการงาน ต่อหน้าที่การงาน การเหลวไหลต่อหน้าที่การงานเหล่านี้ ก็เป็นการคดโกงต่อตัวเอง คือ ไม่ซื่อตรงต่อตัวเองเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น การบิดขี้เกียจ ผลัดเพี้ยน เพื่อนอนสาย เป็นต้น หรือเพื่อรีรอ รีรอ เรื่อย ๆ ไป จนไม่ต้องทำ นั้นก็เป็นการคดโกงอย่างยิ่ง เราเคยเสียหายกันมาแล้ว เพราะลักษณะแห่งการคดโกงต่อตัวเองเช่นนี้ หรือหาไม่ ขอให้ไปลองคิดดู

ถ้าต้องการความเจริญโดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ก็นึกถึงความไม่คดโกงต่อตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุให้คดโกงต่อผู้อื่นนี้กันให้มาก ฉะนั้น ท่านจึงแนะนำสั่งสอนตรัสไว้เป็นหลักเป็นเกณฑ์ว่า จะต้องมีสัจจะ คือมีความจริง จริงต่อตัวเอง ซื่อตรงต่อตัวเองก่อน แล้วก็จะทำการซื่อตรงต่อผู้อื่น ซื่อตรงต่อการงาน หน้าที่ ซื่อตรงต่อเวลา ซื่อตรงต่อพระศาสนา ต่อพระธรรม หรือต่อทุกสิ่งก็แล้วกัน

ถ้าหากว่ามีความซื่อตรงต่อตัวเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็จะมีความซื่อตรงต่อทุกสิ่งได้โดยไม่ต้องสงสัย เราจะต้องฝึกฝนทุกอย่าง ทุกทาง ที่จะให้มีความซื่อตรงโดยทำนองนี้เกิดขึ้น โดยอาศัยการซื่อตรงต่อตัวเองเป็นหลัก และก็จะตรงต่อเวลา ตรงต่อหน้าที่การงาน ตรงต่อเกียรติยศของความเป็นมนุษย์ของตนได้ในที่สุด

สัจจะ จึงเป็นธรรมะข้อแรก เป็นประเดิมเรื่องแรกในการที่จะให้การประพฤติหรือการกระทำที่ดีที่งามเป็นไปโดยลำดับ จงได้ภาวนา อธิษฐานในการที่จะมีสัจจะ สิ่งใดที่ทำผิดทำพลาดไปแล้วแต่หนหลัง ก็สารภาพผิดนั้นด้วยตนเอง เป็นการแสดงอาบัติแก่ตนเองก็ได้ แต่ว่าให้จริง ให้จริง จริง จริง คือว่า สิ่งที่ทำผิดไปแล้วจะต้องไม่ทำอีกจริง ๆ แล้วต่อไปข้างหน้าก็จะมีความแน่ใจจริง ๆ ที่จะไม่ทำผิดเช่นนั้นอีก อย่างนี้ก็เรียกว่ามีสัจจะ มีสัจจะได้แล้ว

ข้อนี้เป็นทางแห่งความเจริญ รุ่งเรืองอย่างยิ่ง เป็นการกลับตัวเหมือนกับการเกิดใหม่ เกิดมาผิด แล้วก็เกิดเสียใหม่ให้ถูก เกิดมาไม่ดี เราก็เกิดเสียใหม่ให้ดี ด้วยอาศัยสัจจะข้อนี้เป็นบรรทัดฐาน

พุทธทาสภิกขุ

3,197







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย