ปฏิบัติธรรมแบบเจโตวิมุติ ณ ปัณฑิตารมย์ สระบุรี เริ่มต้นปฏิบัติธรรมกันอย่างไร ??(ตอนที่ 14)

 มหาราชันย์  

... เริ่มต้นปฏิบัติธรรมกันอย่างไร ?? (ตอนที่ 14)
...
ผู้สนใจศึารษาเรียนรู้ โทร. 089 - 766 - 2373
E-Mail : karagetu@hotmail.com
ID Line : karagetu
...
อาหารจานที่ 1 การคบ “สัปบุรุษ”
อาหารจานที่ 2 การฟัง “พระสัทธรรม” (ต่อ...จากตอนที่แล้ว ... การสร้างใจอายตนะภายใน และความรู้อายตนะภายนอก)
... สัมผัสอายตนะภายนอก อันเป็นอาหารเลิศรส คือ “พระสัทธรรม”
... ใจเป็นอายตนะภายในอันยอดเยี่ยม ที่ประกอบด้วยปัญญาญาณทั้งหลาย
...
...”ใจ” หรือ “จิตใจ” เป็นผู้รับประทานอาหารจานนี้ คือ “การฟังพระสัทธรรม”
เมื่อผมเริ่มปฏิบัติผมจะใช้แสงสว่างในการกำจัดนิวรณ์ 5 เพื่อเข้าสู่สมาบัติ 8 เพราะช่วงนั้นผมอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน หลับกันยาว เมื่อได้ฌานสมาบัติ 8 จนชำนาญแล้วจึงเริ่มเจริญฌานสมาบัติ 8 เข้าฌาน-ออกฌานในกสิณ 8 รวม 14 ขั้นตอน “เรียกว่า “จิตตกรีฑา”” ฝึกฝนจากช้า ๆ กว่าจะครบ 14 ข้อก็ 3-4 ชั่วโมง จนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เหลือเพียงไม่เกิน 30 นาทีก็ครบทั้ง 14 ข้อ แต่ละรอบก็จะมีความสุขมาก ๆ ไม่เจ็บไม่ปวดไม่เมื่อย ทรงฌานสุขนั้นได้ตลอดวัน ทำให้ความคิดเป็นระเบียบขึ้น มีความจำที่ดี
...เมื่อมาถึงจุดนี้ก็ทำให้มีกำลังใจในการอ่านพระไตรปิฎกได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และเข้าใจข้ออรรถข้อธรรมได้ละเอียดลึกซึ้งพร้อมกันในคราวเดียว ยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นความสัมพันธ์ขององค์ธรรมต่าง ๆ ที่อิงอาศัยเกิดกันในจิตใจได้อย่างสลับซับซ้อน จึงพบว่า “ผมโง่จัง”
... เพราะเมื่อได้ฌาน 4 แล้ว จริง ๆ เพียงปฏิบัติตามพระธรรมเทศนาพระสูตรใดพระสูตรหนึ่ง หรือพระคาถาสักบทหนึ่ง ก็เพียงพอต่อการทำให้จิตบริสุทธิ์ ขาวรอบ ตั้งมั่น มีอำนาจ อ่อน และควรแก่การงานได้ทันทีที่จบพระคาถา ไม่ต้องใช้เวลานาน ๆ ขนาดนั้น
... เพราะว่าพระคาถา หรือพระสูตร ที่ผู้ได้ฌานแล้ว น้อมนำมาเป็นอารมณ์นั้นมันเป็น “วิชชา” อันเป็นปัจจัยให้เกิด “ปุญญาภิสังขาร” แห่งโลกุตตระฌานตามปฏิจจสมุปบาทได้โดยตรง ไม่ต้องใช้กสิณก็ได้ เราจึงเห็นได้ว่า คนสมัยพุทธกาลเมื่อเขาฟัง “พระสัทธรรม” จบลง พวกเขาก็บรรลุธรรมทันที นี่คือความสุดยอดแห่งความอร่อยของอาหารจานที่ 2 เพราะมันอร่อยและเป็นสุข “เร็วพลัน” เป็นศาสนาแห่งความเร็ว
...ดังนั้นจะเห็นได้ว่า อาหารจานที่ 2 คือ การฟัง “พระสัทธรรม” นั้น ผู้ที่สมควร หรือผู้สามารถรับประทานได้นั้น ต้องเป็นผู้มีจิตสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย มีจิตบริสุทธิ์ ขาวรอบ ตั้งมั่น มีอำนาจ อ่อน และควรแก่การงาน เสียก่อนเท่านั้น
... เพราะอะไร เพราะการรู้แจ้งแทงตลอดพระสัทธรรมนั้นต้องอาศัย “ความจำ” ต้องจำเส้นทางมาเส้นทางไปของ Mind Map ให้ได้ตลอดสายตลอดเส้นทาง
... “ความจำ” ที่ว่า ไม่ใช่ “สัญญาขันธ์” อย่างเดียวหรอกนะครับ แต่เป็น “สัญญาขันธ์ที่ปรุงแต่งด้วยปุญญาภิสังขารที่มากพอ” เท่านั้น เป็นปุญญาภิสังขารที่เปลี่ยนสัญญาให้เป็นปัญญาได้ สัญญาเกิดก่อนปัญญามีภายหลัง ถ้ายังได้หน้าลืมหลังอยู่ ก็จะเป็นการยากที่จะมีดวงตาเห็นธรรมได้
... “ความจำ” ที่จำทุกรายละเอียดในคราวเดียว หรือ ระลึกชาติได้ นั่นยิ่งดี ยิ่งเหมาะแก่การรับประทาน อาหารจานที่ 2 คือ การฟัง “พระสัทธรรม”
... “สัญญาเกิดก่อนปัญญามีภายหลัง”
... “สัญญาเกิดก่อนปัญญามีภายหลัง”
... “สัญญาเกิดก่อนปัญญามีภายหลัง”
...
สวัสดียามเช้าครับ
ขอให้ทุกท่านจงรุ่งเรืองและยั่งยืน



6,311






จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย