ท่านพระนันทกะ ถือกำเนิดในตระกูลพราหมณ์ ในเมืองสาวัตถี เมื่อเติบใหญ่แล้วได้สดับพระธรรมเทศนาในสำนักของพระบรมศาสดา บังเกิดความเลื่อมใสในบวรพุทธศาสนา จึงได้ทูลขอบรรพชาอุปสมบท
ครั้นได้อุปสมบทแล้ว ไม่ประมาท บำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ต่อไม่นานก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีความชำนาญในการระลึกซึ่งปุพเพสันนิวาสขันธสันดาน ที่ท่านและสัตว์อื่นเคยอยู่อาศัยบังเกิดในชาติก่อน ๆ (เป็นผู้ชำนาญในการระลึกชาติหนหลัง)
ท่านเป็นผู้ฉลาดรอบรู้ในการแสดงธรรมแก่บริษัทสี่ให้เป็นที่พอใจ และเข้าใจได้โดยง่าย ในตำนานปรากฏว่าท่านแสดงพระธรรมเทศนา ว่าด้วยเรื่องอายตนะ ๖ ประการ แก่นางภิกษุณีประมาณ ๕๐๐ ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนา นางภิกษุณีเหล่านั้นได้บรรลุโสดาปัตติผล และพากันชื่นชมยินดีในพระธรรมเทศนาของท่าน
พระบรมศาสดาทรงทราบ ในวันรุ่งขึ้นรับสั่งให้ไปแสดงธรรมสั่งสอนภิกษุณีอีก ท่านก็ได้ไปแสดงธรรมสั่งสอนนางภิกษุณีตามพระพุทธประสงค์ ยังนางภิกษุณีเหล่านั้นให้ดำรงอยู่ในอรหัตตผล พร้อมกันทั้ง ๕๐๐ องค์
เพราะอาศัยคุณสมบัติเช่นนี้ พระผู้มีพระภาคจึงทรงตั้งท่านไว้ในตำแหน่ง เอตทัคคะ ว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างให้โอวาทแก่นางภิกษุณี
ท่านดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน