"ธุดงควัตร กับหลวงปู่ชอบฯ"
" .. จงพยายามรักษาธุดงค์ไว้ให้มั่นคงต่อไป อย่าให้เสื่อมร่วงโรยไปเสีย
"ธุดงควัตรเสื่อมก็เท่ากับศาสนาเสื่อม" แม้คัมภีร์ธรรมทั้งหลายยังมีอยู่ก็ไม่อาจทรงคุณค่าแก่ผู้ไม่สนใจได้เท่าที่ควร ธุดงควัตรเป็นธรรมขั้นสูงมาก
"ผู้รักษาธุดงค์ได้ต้องเป็นผู้มีจิตใจสูง" ท่านควรทราบว่า
"พระอริยเจ้าทุกประเภทไปจากธุดงควัตรนี้ทั้งนั้น เพราะธุดงค์เป็นธรรม เครื่องทำลายกิเลสได้ทุกประเภท ธุดงควัตรจึงเป็นทางเดินเพื่ออริยธรรม อริยบุคคล" คนไม่มีธุดงควัตรคือคนวัตรร้าง เช่นเดียวกับบ้านร้างเมืองร้าง อะไรก็ตาม ถ้าลงได้ร้างแล้ว ไม่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาเลย
"ท่านจงรักษาธุดงค์ อันเป็นเครื่องทำลายกิเลสไว้ให้ดีและมั่นคง" อย่าให้เป็นพระวัดร้าง จะเป็นทางรั่วไหลแตกซึมแห่งมรรคผลนิพพานที่ควรจะได้จะถึง
"พระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลาย บรรดาที่เลิศแล้ว ล้วนแต่ท่านรักษาธุดงควัตรกันทั้งนั้น" ใครประมาทธุดงค์ว่าไม่สำคัญ ผู้นั้นคือผู้หมดสาระสำคัญในตัวเอง
"ท่านจงรักษาความสำคัญของตนไว้ด้วยธุดงควัตร ผู้มีธุดงควัตรเป็นผู้มีอำนาจทั้งภายนอกภายในอย่างลึกลับจับใจที่บอกใครไม่ได้ เป็นผู้เด่นในวงแห่งทวยเทพชาวไตรภพทั้งหลาย มนุษย์และเทวดาทุกชั้นทุกภูมิเคารพรักผู้มีธุดงควัตรประจำตัวอยู่" และไปที่ไหนไม่เป็นภัยแก่ตัวและผู้อื่น มีแต่ความเย็นฉ่ำอยู่ภายในทั้งกลางวันและกลางคืน
"ธุดงควัตรเป็นธรรมลึกลับ" ยากที่จะมองเห็นความสำคัญ ทั้งที่ธุดงควัตรเป็นธรรมสำคัญในศาสนามาดั้งเดิม
"ธุดงควัตรเป็นหลักใหญ่แห่งพระศาสนา ผู้มีธุดงค์ประจำตัว คือผู้รู้ความสำคัญของตัว" และรักษาถูกจุดแห่งความสำคัญได้ดี เป็นที่น่าชมเชยอย่างถึงใจ ผู้มีธุดงควัตรดีเป็นผู้มีใจเมตตาอ่อนโยนในสัตว์ทั้งหลาย
"ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติรักษาธุดงควัตรอยู่ตราบใด ศาสนาก็ยังทรงดอกทรงผลอยู่ตราบนั้น" เพราะธุดงค์เป็นทางที่ไหลมาแห่งมรรคและผล ทุกชั้น ไม่มีสถานที่ กาลเวลา หรือสิ่งใด ๆ มาเป็นอุปสรรคกีดขวางทางเดินเพื่อมรรคผลนิพพานได้
ถ้าธุดงควัตรยังเป็นไปอยู่แก่ผู้ปฏิบัติทั้งหลาย
"ท่านจงจดจำให้ถึงจิต คิดไตร่ตรองให้ถึงธรรม" คือธุดงควัตรดังกล่าวมา "อยู่ที่ใดไปที่ใดจะชุ่มเย็นอยู่กับตัวท่านเอง ธุดงควัตรนี่แลคือบ่อเกิดแห่งธรรมทั้งหลาย" ดังนี้ .. "
"ฐานสโมบูชา"
โดยคุณหญิง สุรีพันธุ์ มณีวัต
http://www.buddhist.egat.co.th/index.php?option=com_phocadownload&view=file&id=29:50-2552-thansamobucha-77&Itemid=314