"ครั้งพุทธกาล ผู้ฟังธรรมท่านมีสติมีสมาธิ" (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
"ครั้งพุทธกาล ผู้ฟังธรรมท่านมีสติมีสมาธิ"
" .. โดยมากสมัยครั้งพุทธกาล "ผู้ที่ฟังเทศน์พระพุทธองค์นั่งอยู่ในอาสนาะเดียว แต่ท่านก็มีสมาธิที่จะใคร่ครวญ รู้ไปด้วย เห็นไปด้วย แก้อาการของจิตไปด้วย" จิตใจก็ค่อยละวางไปไม่ยึดมั่น เห็นโทษเห็นภัยในตัวเอง หนักเข้าก็เลยตัดกระแสภวังค์รู้แจ้งขึ้นเลย
ท่านจึงว่า "ได้สำเร็จขั้นนั้นขั้นนี้ เป็นโสตะ เป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรม ก็เนื่องมาจากมีสติ" แต่ว่าสมัยนี้โดยมาก "สติจะมีน้อยนิด" แม้ฟังเทศน์ฟังธรรมก็ตาม ฟังคำบรรยาย "ฟังปาฐกถาธรรม ไม่ค่อยได้ถึงจิตใจ เป็นเพียงแต่สัญญา มันไม่ลงถึงจิตใจ ฟังแล้วไม่ได้เรื่อง"
บางที่รู้เรื่อง "แต่จิตแก้ไม่ได้ โดยมากมันมักหันไปทางโลก" ดูความเพลิดเพลินทะเยอทะยานเห่อเหิมทางโลก "มันจึงไม่ลงถึงจิต จิตก็เลยไม่สลดสังเวช" ผลของการเห็นโทษเห็นภัยยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นมันเลยไม่ไป เลยไม่ได้เรื่องได้ราว
"ฟังแล้วก็ฟังอยู่เฉย ๆ คล้าย ๆ กับพวกนักศึกษาเล่าเรียน เรียนไป ก็จำได้อยู่แค่นั้น" มันแก้จิตใจตัวเองไม่ได้ แก้คนอื่นก็ไม่ได้ นี่ปัญหามันอยู่ตรงนี้
พวกเราจึงต้องหาหนทางแก้อาการของจิตไม่อยากให้หลงทางเท่านั้นแหละ "เพราะว่าจิตใจมันไม่รู้จักโทษ ไม่รู้จักให้อภัย" .. "
"วีระปฏิปทา มหาวีโร"
หลวงปู่ศรี มหาวีโร