การรู้จักบุญรู้จักบาปไม่ใช่ง่าย (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร)
พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินฺธโร
วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร
แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
เราเป็นชาวพุทธและเราก็รับคำสอนของพระพุทธเจ้าและพวกเราก็รู้จักอันนี้เป็นบุญ อันนี้เป็นบาป ไอ้การรู้จักเป็นบุญเป็นบาปนี่ข้อนี้..ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าเราจะไปสอนคนเนี่ย สอนให้เขารู้จักบุญจักบาป เขาก็ไม่ค่อยจะเชื่อ บอกว่าทำบุญไปสวรรค์ สวรรค์เป็นยังไง ก็ไม่ค่อยเชื่อ พอพูดนรก นรกเป็นอย่างนี้ เขาก็ไม่เชื่อ ทีนี้เมื่อเขาไม่เชื่อแล้วก็สอนกันไม่ได้
แต่ทีนี้พวกเรานี้ได้รู้กันมาแต่ปู่ย่าตายายแล้วว่าการทำบุญก็คือเป็นหนทางที่จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ การทำบาปก็จะต้องไปลงนรกอเวจี ใครลองคิดดูก็แล้วกันว่าคนที่เขาทำบาปอะไรได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ลำบากอีก
ก็ดูแต่เศรษฐีคนหนึ่ง มันมีลูกเจ็ดคน แล้วก็มันมีเงินอยู่เก้าพัน เป็นหมื่นล้านน่ะ แล้วมันก็สั่งลูกว่า อย่าไปทำบุญทำทานนะ ของใครของมัน ใครทำกินของใครของมัน ว่างั้นนี่คือสั่งลูกไว้ พอสั่งลูกไว้แล้วตัวเองก็แก่แล้วก็ตาย ตายแล้วทีนี้ค่าที่ไม่ได้ทำบุญแล้วก็ไปสั่งลูกสั่งหลานด้วย เขาก็เลยไปเกิดในสลัม ไปเกิดในสลัมก็เป็นคนพิการ คือตาก็เหล่ แขนก็สั้นข้าง ตัวก็ดำเหมือนกา แล้วทีนี้ในสลัมนั่นน่ะตามธรรมดาเขาก็ทำมาหากินกันสะดวกสบาย พอไอ้เด็กคนนี้เกิดขึ้นมาแล้วก็หากินฝืดเคือง เขาก็หาว่าเด็กกาลกิณีมาเกิด เขาก็ให้พ่อแม่นี่เอาเด็กนี่ไปไล่ไปไว้อยู่ที่ไหนซะ พ่อแม่นี่ลูกมันจะแค่ไหนพ่อแม่มันจะรักอยู่ตลอด ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลี้ยงจนโต โตขึ้นมาก็บอกว่าต้องไปแล้ว แกไปหาขอทานกินที่ไหนก็ไปซะ แล้วก็มันก็ไป ไปแล้วไปหาที่ไหนก็ไม่มีใครเขาให้ ไปขอที่ไหนก็ไม่มีใครเขาให้ ก็ไปเก็บเอาตามที่เขาทิ้งขยะพอได้กินไปวันหนึ่งวันหนึ่ง
มีวันหนึ่งก็เดินสะเปะสะปะไปยังไงไม่รู้ เดินไปที่บ้านลูกเจ็ดคนนั่นแหละ มันก็มีกองขยะมันก็เลยไปหา ไปเก็บกองขยะกิน ขยะที่เขาเอามาทิ้งที่บ้านลูกนั่น ทีนี้มันกินแล้วมันก็ไม่ไป ไม่ไปทีนี้เขาก็มาไล่มัน ไล่มันก็ไม่ไป เขาก็เลยมาตีมันตีจนกระทั่งมันสลบ เขาก็เลยทิ้งไว้ที่นั่นแหละ ทีนี้พอมันถูกน้ำค้างเข้าก็เลยฟื้น พอดีพระพุทธเจ้าก็เสด็จไปทางนั้น ไปเห็นเข้า พระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่า นี่มันไม่รู้ มาตีพ่อมัน พ่อมันมาเกิดนี่มันไม่รู้ ลูกเจ็ดคนเขาก็ลงมาจากบ้าน ก็ล้อมพระพุทธเจ้า หาว่าพระพุทธเจ้าโกหกว่า ก็พ่อของฉันเขาต้องไม่มาเกิดอย่างนี้ ก็พ่อของแกจริงๆถ้าไม่เชื่อก็ลองดู เอาอย่างนี้ก็แล้วกันว่า เอาเด็กนี้ไปอาบน้ำอาบท่าให้ดี เอาเตียงนอนให้ดี แล้วก็พากันไปกราบ เอาดอกไม้ขอขมาโทษ แล้วก็ถามว่าเงินที่พ่อเอาฝังไว้น่ะมันอยู่ที่ไหน แล้วพวกลูกเจ็ดคนก็ได้ทำตามพระพุทธเจ้าว่าจะจริงไหม ก็เอาไปนอน พอเอาไปนอนแล้วก็กราบ กราบแล้วเด็กนั่นก็น้ำตาไหล แล้วก็ชี้ลงไปตรงโน้น ตรงโน้น ได้เงินคืนมาหมดเก้าพ้นล้าน ลูกก็ดีใจก็เลยเลื่อมใสพระพุทธเจ้าว่า โอ้..จริงๆด้วย แล้วเขาก็เลยถวายเงินเก้าพันล้านไปสร้างวัดหมด แล้วพวกนี้ก็เลยเป็นนักบุญต่อไป
คือคนที่จะเชื่อจริงๆเนี่ยมันจะต้องเห็นกับตาแล้วก็เชื่อ แต่เราเนี่ยเราพากันมีตาทิพย์ ตาทิพย์จะเกิดขึ้นถ้าหากว่าเราพยายามทำสมาธิแล้วก็สมาธิมันจะเกิด เขาเรียกว่า "ธรรมจักษุ"
ที่มา : ถอดความจาก ธรรมะรุ่งอรุณ หัวข้อ “การทำสมาธิทำให้เกิดตาทิพย์” ๐๒/๐๖/๕๗