"ไตรสรณะคมน์เสื่อมเศร้าหมอง" (ท่านพ่อลี ธัมมธโร)

 วิริยะ12  

 "ไตรสรณะคมน์เสื่อมเศร้าหมอง"

"เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตาเส นเต คมิสฺสนฺติ อปายภูมํ
ปหาย เมนุสํ เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตีติ"

" .. แปลความว่า "นรชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะที่พึ่ง (ภายในใจ) ชนทั้งหลายเหล่านั้นจักไม่ได้ไปเกิดในอบายสี่" คือ นรก เปรต อสูรกาย และสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อละกายเป็นของมนุษย์แล้ว จักได้ยังกายทิพย์ให้บริบูรณ์ ดังนี้

"ถ้าเราเชื่อมั่นแล้ว ไม่ควรไปเชื่อถือของศักดิ์สิทธิ์ที่สมมติกันขึ้นภายนอก" โดยหาเหตุผลมิได้ เห็นคนอื่นเขาพาทำมา ก็หลับตาทำไปโดย อาการต่าง ๆ แล้ว "อาจทำให้พระไตรสรณาคมน์เสี่อมและเศร้าหมองไป" ใจเราก็จะหมดหลักฐานที่พึ่งอาศัย ก็จะเกิดความสงสัย ฟุ้งซ่าน "ไปนับถือนอกรีตนอกรอย" พลอยลุ่มหลงไปต่าง ๆ

"ลักษณะของผู้มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งแล้ว" ย่อมมีกายอ่อนน้อม มีวาจาอ่อนน้อม "ย่อมปรารภเสมอพร้อมทั้งนํ้าใจ ประกอบด้วยปัญญา" พิจารณารู้เห็นความจริงของตนว่า "เราเกิดมานี้เพราะกรรม เราเป็นอยู่นี้เพราะกรรม เราตายไปนี้เพราะกรรม เราท่าดีได้ดี เราท่าชั่วได้ชั่ว" ด้งนี้

"ใคร ๆ จะช่วยความเป็นตายให้เราได้" เมื่อมีความเชื่อมั่นหมั่นระลึกศึกษาภาวนาอยู่เป็นนิตย์แล้ว "เท่ากับสาธยายมนต์ทิพย์อันประเสริฐ" นับเป็นหลักทางใจในทางพุทธศาสนาส่วนหนึ่ง .. "

"จิตตวิชา"
ท่านพ่อลี ธัมมธโร
 

5,646







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย