"ถึงไตรสรณคมน์แล้วก็ไปเกิดเป็นมนุษย์อีก" (หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)
.
"ถึงไตรสรณคมน์แล้วก็ไปเกิดเป็นมนุษย์อีก"
" .. การเกิดในศาสนาพุทธนั้น "เมื่อเราได้ถึงไตรสรณคมน์แล้ว มันก็มีพืชไว้แล้วถึงแม้มีภพมีชาติอีก มันก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ในพุทธศาสนานั่นเอง" ไม่ต้องสงสัยเลยนา
การเกิดเป็นเทวดาเทวบุตรและพรหมมีทุกข์น้อยกว่ามนุษย์ก็จริงอยู่แล้ว "แต่เมื่อมันอยู่ใต้อำนาจความไม่เที่ยงแล้ว ก็จัดว่าเป็นทุกข์เสมอกัน" ในด้านปรมัตถ์และก็มรรคผลก็มีในชั้นเทวโลก และพรหมโลกเหมือนกัน
"บางท่านก็ภาวนาติดต่อกันในภพนั้น ๆ สร้างบารมีอยู่ในภพนั้น ๆ ก็เป็นพระอริยบุคคลได้เหมือนมนุษย์เรานี่เอง" มันก็ล่าช้าอยู่แต่สัตว์เดรัจฉาน เปรตทุกจำพวก และสัตว์นรกทุกจำพวกเท่านั้น
จะอย่างไรก็ตาม เราไม่ตีตนตายก่อนไข้ เราจะไม่หวังภพต่อไปในอนาคตอีก "เราจองขาดผูกขาดเพื่อพ้นทุกข์ทั้งปวงในชาติปัจจุบัน" เพื่อจะตัดปัญหาความมุ่งหวังหลายทาง ให้เหลือแต่ทางเดียวปัญหามันจะน้อยลง
ความประสงค์ก็ไม่มีมาก "แม้เราจะภาวนาเห็นกองทุกข์ขณะจิตเดียวหรือพุทโธคำเดียว" ก็มีคุณค่ามากกว่าที่ปรารถนาในภพต่อไป "การปรารถนาในภพต่อ ๆ ไปตั้งล้าน ๆ ขณะจิต ก็ไม่เท่าขณะจิตเดียวที่หวังพ้นทุกข์ในปัจจุบันชาติ" .. "
"ตอบปัญหาธรรมและการปฏิบัติธรรม"
(หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)