พระคุณของพระพุทธเจ้า (บทสุคะโต) : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี
วัดหินหมากเป้ง
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
“สุคะโต” ท่านไปดี ละโลกนี้แล้วไปสู่ปรโลก
ไม่ใช่ไปเพียงสวรรค์ชั้นฟ้าเท่านั้น ไม่ใช่ไปพรหมโลก
..”นิพพาน”เลย ดับเลย ไปดีจริงๆ พวกเราไปเพียง “สุคติ”
ก็นับว่าดีอยู่แล้ว แต่พระพุทธเจ้ายังดีกว่านั้นอีก
“สุคะโต” ไปดี..มาโลกนี้ก็มาทำประโยชน์ให้แก่โลก
ถ้าพระพุทธเจ้าไม่อุบัติบังเกิดขึ้นในโลก
พวกเราจะได้มีความรู้ความเข้าใจในธรรมคำสอนของพระองค์หรือ
พวกเราก็พากันมืดมน นี่รู้จักดีรู้จักชั่วรู้จักบาปบุญคุณโทษ
ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ รู้จักคิดพิจารณา เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
การเกิดแก่เจ็บตายเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ทั้งหลายนี่
ก็ล้วนแล้วแต่พระองค์เสด็จมาทั้งนั้นล่ะ ถ้าพระองค์ไม่เสด็จมาโปรด
อะไรก็แล้วเท่านั้นล่ะพวกเราไม่เห็นหรอกของพวกนี้
อันนี้คือท่านมาดี มาทำประโยชน์ให้แก่โลก
ไม่ใช่แต่เฉพาะพวกเรานะ ใครๆก็ตามเถอะ
เกิดขึ้นมาในโลกนี้แล้วมาได้รับธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
เป็นคนมี “แสงสว่าง” ปรากฏขึ้นในจิตในใจ จึงว่า “ท่านมาดี”
คนเราถ้าหากคนใดมีวิชชา คือ ถึงพร้อมด้วยความรู้ความฉลาด
ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็เป็น “สุคะโต” ได้เหมือนกัน
ถ้าคนใดไปที่ไหนไปอาละวาดทุ่มเถียงเขา
ไปทะเลาะเบาะแว้งคนโน้นคนนี้และอิจฉาริษยา
ลักฉ้อโกงขโมย อันนั้นไม่ใช่ “สุคะโต” ซะแล้ว เป็น “ทุคะโต”
ไปที่ไหนเขาก็เหยียดหยามดูถูกสาปแช่งทุกประการ
เขาไม่ยินดีพอใจ ไปอยู่แล้วเขาก็เบื่อหน่ายหนี
แล้วเขาเหยียดหยามตามหลัง เป็นทุคะโต
โดยพระองค์ไม่เป็นอย่างนั้น มาก็ทำประโยชน์
พระองค์นิพพานไปแล้วก็มีคนอาลัยอาวรณ์
พวกเราทั้งหลายทุกวันนี้ก็กราบไหว้สักการะบูชาทำวัตรเช้าวัตรเย็น
ก็คือ อาลัยอาวรณ์ถึงพระคุณของพระองค์นั่นเอง
นี่ว่า พระองค์ “มาดี ไปดี – สุคะโต”