มีรักและชังจึงทุกข์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ครั้นว่าเมื่อพบบุคคลหรือว่าสิ่งของอันเป็นที่รักพออกพอใจของตน
ก็ยินดี พอใจ รักใคร่บุคคลผู้นั้นและก็สิ่งของนั้นๆอย่างนี้นะ
เมื่อพบกับบุคคลที่ไม่ถูกกับนิสัยใจคอของตนขึ้นมา
หรือว่าได้สิ่งของอันไม่เป็นที่พอใจ ไม่เป็นที่ตนต้องการอย่างนี้
ก็เบื่อหน่าย โกรธ.. เกลียด ..ชังขึ้นมาอย่างนี้..
เมื่อเป็นอย่างนี้จะเป็นกลางได้ยังไงจิตนั้นหือ..
มันก็เอียงไปเอียงมาไม่ใช่หนทางไปสู่พระนิพพานแล้วบัดนี้
เป็นหนทางให้เกาะให้ข้องอยู่ในโลกสงสารอันนี้ ก็สัตว์โลกทั้งหลายนะ
สังเกตดูตั้งแต่เกิดมาโน่นแหละ ตั้งแต่เป็นเด็กเป็นเล็กอยู่นู้น
มันก็มีความพอใจกับความไม่พอใจนี่แหละเป็นเครื่องอยู่ในใจ
เด็กๆถ้าเอาสิ่งของที่มันพอใจให้มันเล่นอย่างนี้..โอ๋..มันไม่ร้องไห้
มันเล่นหัวอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้ามันได้สิ่งของที่มันไม่ชอบใจมันแล้ว
มันไม่เอา มันก็ร้องไห้ นั่นแสดงว่าคนเรานี่น่ะมันยึดมั่น
มันสร้างเอาความยินดียินร้ายติดตัวมาตั้งแต่อดีตชาติหนหลังนู้น
เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดขึ้นมาเป็นคนขึ้นมา
จะเป็นเด็กเป็นเล็กมันก็แสดงกิเลสเหล่านี้ออกมาให้เห็นแล้ว
เพราะฉะนั้นเมื่อเจริญวัยใหญ่โตมาก็จึงแสดงออกซึ่งความรักความชังอันนี้เรื่อยมา
จนว่าบุคคลได้มาฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
บัดนี้ก็รู้แนวทางปฏิบัติทำจิตให้สงบลงเป็นสมาธิ
เจริญปัญญาให้เกิดขึ้นแล้วจึงมาพิจารณา
เห็นกิริยาอาการจิตของตนว่า แต่ก่อนมานี้จิตลำเอียงไป
เอียงไปข้างซ้ายเอียงไปข้างขวาอยู่อย่างนั้น
เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความสุขความสบายได้
ถึงจะมีความสบายได้ก็สบายได้เป็นครั้งคราวเท่านั้นเอง