ครองเรือนด้วยธรรม : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
แม้จะในครอบครัวตัวเรือนผู้ครองเรือนก็เหมือนกันน่ะ
ในเมื่อครอบครัวใหญ่ๆอย่างนี้ ไอ้ผู้เป็นพ่อบ้านแม่เรือนน่ะ
ก็ต้องรอบคอบ จะเป็นคนทำใจน้อยไม่ได้
เป็นคนวู่วามเอาแต่ความโมโหโทโสเข้าว่า
ถือว่าลูกของเรา หลานของเรา พี่ของเรา น้องของเรา
แล้วอยากว่าไงก็ว่าไปตามอารมณ์ของความโกรธ ของกิเลส
ไอ้อย่างนี้นะมันไม่ได้ เออ ให้เข้าใจ
มันไม่ใช่ "ของเรา" นี่ จะไปถือว่าของเรายังไง
ก็เขามาเกิดมาอาศัยด้วยเฉยๆลูกหลานก็ดีและญาติพี่น้องก็ดี
บางทีเขาก็มาเกิดเพียงร่วมวงศ์ร่วมตระกูลกันเท่านั้นแหละ
แต่แล้วกรรมดีกรรมชั่วของใครของมัน
ที่ทำมาหากมาตกแต่งให้อย่างนั้น เราต้องพิจารณาดู
ต้นเหตุของชีวิตนี้ให้มันรู้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว
เราจะไปไว้วางใจว่า ลูกของเรา หลานของเรา
ผัวเรา เมียเรา พี่เรา น้องเรา เราอยากว่าไงก็ว่า
เขาจะไม่เสียใจเพราะถือว่าเกิดร่วมวงศ์เดียวกัน
อะไรทำนองนี้ ไม่ได้เน้อ ขอเตือนไว้ก่อน
เราต้องพูดดีเสมอไป ทำดีเสมอไปแหละ
เขาจะทำชั่วก็เรื่องของเขา แต่ว่าเราพูดดีทำดีไป
เขาจะเอาตามก็ตามไม่เอาก็ช่าง เราทำดีให้เขาเห็นเป็นตัวอย่างไป
เราอย่าไปแสดงความโกรธ ความเหี้ยมโหดอะไรต่ออะไร
ให้คนทั้งหลายเขาเห็นเลย นี่แสดงความเป็นผู้ใจประกอบไปด้วย
"เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม"
คือว่า แสดงออกทางกายกรรมประกอบไปด้วยเมตตานั้น
ก็หมายความว่า เราแสดงกิริยากายไม่หยาบคายต่อทั้งคนดีทั้งคนชั่ว
อะไรก็ตามแหละ เราแสดงกิริยากายน่ะเป็นปกติไป
แม้กิริยาวาจาคำพูดคำจาก็เหมือนกัน ก็แสดงวาจา กล่าววาจานั้น
อ่อนหวาน อ่อนโยนไป แม้คนที่อยู่ร่วมกันมันจะดุร้ายยังไง
มันจะแสดงความโหดร้ายอะไรออกมา เราก็พูดดีทำดีต่อไปอย่างนี้
เมื่อนานเข้าเขาเห็นอำนาจแห่งความดีของเรา เขาก็ดีกับเรา
เขาก็เคารพนับถือ ถ้าเป็นลูกเป็นเต้าก็ดี ลูกเต้าผู้ใดมีนิสัยไม่ดี
มันเป็นคนโทสจริตอย่างนี้นะ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องพยายาม
พูดปลอบจิตปลอบใจ พูดอ่อนโยนเอาต่อ
ลูกผู้นั้นน่ะเมื่อเห็นพ่อแม่ทำดีพูดดีต่อ ญาติพี่น้องพูดดีทำดีต่อ
ใจมันก็อ่อนลงบัดนี้ ไม่แสดงความดุร้ายอย่างนั้นเหมือนแต่ก่อน
แต่ถ้าหากว่าพ่อแม่หรือพี่น้องไปแสดงความดุร้ายใส่เขา
เอาแต่อำนาจเข้าว่า อย่างนี้มันยิ่งไปเพิ่มโทสะพยาบาท
ให้เกิดขึ้นแก่ผู้นั้นนะให้เข้าใจ อันมันจะให้มันยอม
ลงไปราบหมอบราบคาบหญ้าลงไปไม่มีหรอกมนุษย์โลกอันนี้น่ะ
อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ลูกเกิดในท้องในไส้ของตัวเอง
มันก็ยังไม่ยอมน่ะถ้าหากว่าปฏิบัติต่อเขาด้วยความไม่เป็นธรรมนะ
ไม่ยอมจริงๆน่ะ มันเป็นอย่างนั้น
ถ้าเราปฏิบัติต่อเขาโดยความเป็นธรรมอย่างที่ว่ามาแล้วนั้น
ลูกหลานญาติมิตรอะไรเขาก็เคารพนับถือบูชาทีเดียวแหละ
มันเป็นอย่างนั้น ยิ่งคนเฒ่าคนแก่อย่างนี้
ลูกหลานก็เทิดทูนไว้เหนือเศียรทีเดียวแหละ
ถ้าเป็นคนเฒ่าคนแก่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม เป็นคนใจดี
มีความอดทนต่อคำสรรเสริญนินทาว่าร้ายต่างๆหมู่นี้นะ
เมื่อเราเป็นคนเฒ่าคนแก่มันต้องมีคุณธรรมอยู่ในใจอย่างนี้
แม้คนหนุ่มก็เหมือนกัน ธรรมะนี้ไปอยู่ในจิตใจของผู้ใดแล้ว
จะเป็นคนหนุ่มหรือคนแก่ ปานกลางอะไรมันก็เป็นคนดีทั้งนั้นแหละ
กลายเป็นคนดีไปเลย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้
นี่เป็นอย่างนี้ ไอ้เรื่องคุณธรรมนี่นะ
ดังนั้นแหละจึงสมควรบำเพ็ญให้เกิดมีขึ้นในใจ
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"วิถีของบุคคลเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย"