ให้ตายไปอย่างบริสุทธิ์ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 จำปาพร  

 พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

...

การที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์
ทั้งได้มาพบพุทธศาสนาอันประเสริฐนี้ด้วย
เช่นนี้แล้วก็สมควรที่จะสละชีวิตของเรา
เพื่อปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าให้ได้

เป็น "นักบวช" ก็ต้องปฏิบัติตาม "ธรรมวินัย"
ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติแต่งตั้งสั่งสอนไว้
เป็น "คฤหัสถ์" ก็ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติตาม "ศีลธรรมของคฤหัสถ์"
ให้เต็มความสามารถ เรียกว่าเราสละชีวิตเพื่อคำสอนจริงๆ
สิ่งใดเป็นบาปเป็นโทษแล้วเราจะไม่ทำ
ที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้แล้ว
เราไม่ทำเลย เอ้า ตายก็ตาย


ถึงแม้เราล่วงเกินคำสอนของพระพุทธเจ้า
เราก็ตายอยู่เหมือนกัน
ถ้าเราไม่ล่วงเกินคำสอนของพระพุทธเจ้านี้
เราตายอยู่ในขณะปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านี้
ก็เรียกว่า ตายไปอย่างบริสุทธิ์เพราะว่า
ผู้ปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้านี้มันต้องไม่ทำชั่ว

ต้องทำแต่ความดี ต้องมีเมตตาอารี
ต้องไม่เบียดเบียนบุคคลอื่นและสัตว์อื่นให้เป็นทุกข์เดือดร้อน


นี่ผู้ปฏิบัติตามคำสอนพระพุทธเจ้าต้องดำเนินชีวิตไปอย่างนี้
เพราะฉะนั้นถึงแม้ตายลงในขณะที่เราปฏิบัติ
ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่อย่างนี้
อันทุคตินี้ไม่ได้ไปหรอก ไม่ได้ไปแน่นอนเลย
เพราะว่าสิ่งใดที่เป็นบาปเป็นโทษนั้นละไปแล้วนิ

นั่นแหละ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนพระพุทธเจ้าแล้ว
ผู้นั้นต้องทำบาปแน่นอนเลยนั่นแหละ
ผู้ทำบาปเช่นนั้นถึงจะมีอายุยืนอยู่ตั้งร้อยปี
พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า เป็นผู้ไม่ประเสริฐเลย
สู้คนที่เขามีศีลธรรมอันดีงาม
แม้จะมีอายุอยู่ได้วันเดียวก็ยังดีกว่านั้น

ดีกว่าผู้ที่ประมาทสะสมแต่กรรมชั่วใส่ตัว
แล้วมีอายุยืนตั้งร้อยปีไม่ประเสริฐเล้ย..

นี่แหละคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านี่
เมื่อเราพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วก็จะเห็นได้ว่า
อันพระพุทธเจ้านั้นทรงพระเมตตา พระกรุณา
ต่อสรรพสัตว์โลกทั้งหลายจริงๆ
อยากให้สัตว์โลกทั้งหลายพ้นจากทุกข์
ให้บรรลุถึงซึ่งความสุขยิ่งๆขึ้นไป
จนกว่าจะบรรลุถึงซึ่งความสุข คือ พระนิพพาน

อันนั้นเป็นความสุขสุดยอดเลย ไม่มีความสุขอื่นยิ่งไปกว่าแล้ว


...


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"สอนให้รู้จักทำใจให้เป็นกลาง" 

5,618







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย