เวทนานุปัสสนา : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 จำปาพร  



 พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


เมื่อขันธ์ห้านี้ปกติ โรคภัยไม่เบียดเบียนก็อย่าไปดีใจเพลิดเพลินเพราะมันไว้ใจไม่ได้ดอก มันอาจวิบัติลงเมื่อใดก็ได้ แน่นอนแหละผลสุดท้ายมันก็วิบัติจริงๆ นี่เพราะฉะนั้นอย่าไปเพลิดเพลินเจริญใจกับร่างกายว่าแข็งแรงดี เต้นสามศอกออกสามวาได้ กินได้นอนหลับ นี่อย่าไปนอนใจ มันจะเป็นอย่างนี้อยู่ตลอดไปไม่ได้อัตภาพร่างกายอันนี้


ทีนี้เมื่อเวลาขันธ์ห้านี่มันวิบัติลง โรคภัยเบียดเบียนได้รับทุกขเวทนาอย่างนี้ก็อย่าไปเสียใจ ก็ให้เจริญเวทนานุปัสสนาเป็นอารมณ์เข้า เวทนานี้ก็สักแต่ว่าเวทนา ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขาอะไรเลย มันเป็นแต่เพียงสังขาร มันเกิดขึ้นอยู่ชั่วระยะหนึ่งแล้วมันก็ดับไป ไม่ว่าสุขเวทนาหรือทุกขเวทนา หรืออุเบกขาเวทนาหมู่นี้ ไม่ใช่ว่ามันจะยั่งยืนอยู่ได้ เช่นทุกข์เกิดขึ้นแล้วมันจะไม่ดับเลยอย่างนี้นะ ไม่มี นั่น ถ้าเป็นเช่นนั้นคนเรามันก็ตายไวๆนั่นแหละมีแต่ทุกข์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไปเรื่อยอย่างนี้นะ มันจะทนอยู่ได้อย่างไรล่ะ ที่มันทนอยู่มาได้นี่ก็เพราะว่า ความทุกข์มันเกิดขึ้นชั่วระยะหนึ่งแล้ว มันก็ดับไป บัดนี้ก็มีสุขเกิดขึ้นมาแทน พอให้ได้สบายใจไปพักหนึ่ง นั่นแหละ ดวงจิตก็มาหลงอยู่ในระหว่างสุขกับทุกข์นั่นแหละ นี่น่ะ อันว่าความสุขเกิดขึ้นก็เพลินไป เอ้า ถ้าความทุกข์เกิดขึ้นมาก็เศร้าใจ เดือดร้อนใจ นี่มันเป็นอย่างนี้คนธรรมดาสามัญน่ะ


ทีนี้คนเป็นบัณฑิต ผู้มีปัญญา ผู้ภาวนาทำใจให้สงบระงับ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ จะไม่เป็นอย่างนั้นจะมีปัญญาสอนจิตให้อยู่ในระหว่างกลางแห่งความสุขหรือความทุกข์ นั่นแหละ สุขเกิดขึ้นมาก็ไม่เพลิดเพลินยินดีไปตามสุขนั้น เวลาทุกข์เกิดขึ้นมาก็จะไม่ยินร้ายไปตาม จะไม่เสียใจเศร้าโศกไปตาม เพราะว่าทุกสิ่งมองเห็นด้วยปัญญาแล้วว่า ไม่ใช่ตัวตนของเรา เมื่อไม่ใช่ตัวตนของเราแล้วจะไปเป็นทุกข์กับมันทำไม ปัญญามันก็สอนใจเข้าไปอย่างนี้ นั่นแหละเมื่อปัญญามันสอนแล้วใจนี่มันเห็นตามแล้ว บอกว่าอย่าเสียใจอย่าไปเศร้าโศกไปตามมัน เพราะมันไม่ใช่ของเรา เมื่อจิตมันถูกปัญญาสอนเตือนอย่างนี้แล้วมันก็เห็นตามจริงๆแหละ เห็นแล้วมันก็ไม่เศร้าโศกเสียใจ เป็นอย่างนั้น


ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"สุขทุกข์อยู่ที่ใจดีหรือใจร้าย" 

5,611







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย