"นายพรานคืนศีล" ตอนที่ ๑๔. "นายพรานออกบวช/พ้นทุกข์โดยพลัน"
"นายพรานคืนศีล" ตอนที่ ๑๔. "นายพรานออกบวช/พ้นทุกข์โดยพลัน"
โดย หลวงปู่จันทา ถาวโร
๑๔. "นายพรานออกบวช/พ้นทุกข์โดยพลัน"
.. นั่นแหละ "นายพรานก็ครองราชสมบัติ ได้บุตรชายทั้งคู่ ให้ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยจบแล้วก็มอบสมบัติให้ลูกและภรรยาหมด"
- พ่อเฒ่าแม่ตาก็ตายหมด
- ช้างสารใหญ่ก็ตาย
- เปรตทั้งหลายก็ตาย นั่นแหละ
- โยธากล้าหาญเปรต ๑,๐๐๐ ตนก็ตาย"
โอ๋ .."อนิจจา วะตะ สังขารา" สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ "เราจะอยู่ไปทำไมเล่า อยู่ไปเราก็จะตายเหมือนกัน" ไม่ได้อะไร "นิสัยปัจจัยได้เป็นพระโสดาบันเอกพีชีแล้วนะ นายพรานนั้น"
"มอบสมบัติให้ลูกกับภรรยาแล้ว อยู่ไม่ได้ ใจจะขาด" มอบเสร็จแล้วออกเดินทางไปบวชกับพระพุทธเจ้า ที่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถีโน้น "พอบวชแล้ว ก็ผ่องแผ้ว เบิกบานเลื่อมใส" นั่นแหละ "ตั้งใจเจริญสมณธรรม ๗ วัน ได้สำเร็จพระอรหันตผล" พ้นทุกข์โดยพลันไม่เนิ่นช้า
นี่แหละ จึงได้ชื่อว่า "ตะโม โชติ ปะรายะโน" เบื้องต้นเป็นพาลสันดานหยาบ ประพฤติแต่ธรรมหยาบช้าลามก ท่ามกลาง เบื้องปลายมาพบนักปราชญ์ชาติเมธี ใจดีมีธรรม ให้โอวาทสั่งสอน ดวงจิตก็โอนอ่อนมาสู่ศีลธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นำมาประพฤติอยู่เป็นนิจวัตร ไม่เลิกละ เอาชีวิตเป็นแดน นั่นแหละ "ได้ชื่อว่า สุคติเป็นที่ไปเบื้องหน้า ได้สำเร็จอรหันต์พ้นทุกข์แล้ว ก็สบาย"
นี่แหละ "เรื่องการเจริญธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า นายพรานเป็นตัวอย่างนะ ทำบาปหยาบช้าลามกมาถึง ๔๐ ปี แล้วเมื่อเอาธรรมะมาฝังไว้ที่ใจนะ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ศีล ๕" ฝังไว้ที่ใจ ขับไล่ไสส่งสมภารเจ้าวัด คือกิเลสและบาปกรรม ความชั่วให้ขยายตัวออกไป ผลสุดท้ายก็อ่อนกำลัง ของดีก็กล้าหาญขึ้น "เมื่อเจริญอยู่เป็นนิจ ผลสุดท้ายก็ได้ชัยชนะ ข้ามโอฆสงสาร มีพระนิพพานเป็นที่ไปเบื้องหน้า" ..
(มีต่อ ตอนที่ ๑๕. "บทส่งท้าย บุคคล ๔ ประเภท")