"ภาวนา มีอานิสงส์กว่าบุญทั้งหลาย"
" .. ไปที่ไหนเราก็ได้เทศน์เสมอ
"เรื่องภาวนาเพราะเป็นหลักสำคัญมาก" มันจะไม่เป็นก็ตาม การภาวนาของเราก็มีผลมากตลอดอยู่แล้วนี่อันหนึ่ง แล้วยิ่งจะได้รู้สิ่งนั้นเห็นนี้ยิ่งจะแตกกระจัดกระจายออกไป ฝังลึกลงโดยลำดับ
"เรื่องเชื่อบุญเชื่อกรรมไม่ต้องบอก เป็นขึ้นมาเอง"
แล้วกระจายออกไปความเชื่อ กระจายกว้างขวางลึกซึ้งไปเรื่อย ๆ นี่เกิดขึ้นจากการภาวนา
"การที่เราได้ยินได้ฟังจากครูจากอาจารย์ นี่ก็เป็นบทหนึ่ง แต่สู้บทภาวนาที่ประจักษ์ขึ้นในเจ้าของไม่ได้" จากครูบาอาจารย์สอนแล้วทำอย่างนั้น ๆ อันนี้จะเป็นที่แน่ใจตัวเองได้โดยลำดับ
"จึงอยากให้พี่น้องทั้งหลายได้ภาวนา"
ที่สรุปลงมานี้
"คือจากการภาวนานะ การภาวนาจึงพิสดารมากทีเดียว สิ่งไม่เคยรู้เคยเห็นไม่เคยคาดเคยคิด เป็นขึ้นมาได้ไม่สงสัย" ก็กิเลสอันเดียวเท่านั้นปิดไว้ พอเปิดนี้จ้า มันก็เห็น เปิดมากเปิดน้อยเห็น เปิดจ้าหมด
"เห็นกระจ่างเต็มหัวใจเลย เป็นอย่างนั้นนะ ต่างกัน จึงอยากให้ภาวนา"
ไปที่ไหนทุกวันนี้
"มักจะเทศน์ทางภาวนา เพราะความสงสาร อยากให้ตั้งหลักตั้งเกณฑ์ไว้ในจุดภาวนา" ถึงจะไม่ได้ความแปลกประหลาดอัศจรรย์
"การภาวนานี้มีอานิสงส์มากยิ่งกว่าการสร้างบุญทั้งหลายนะ" จะได้สั่งสมบุญกุศลตลอด
จะรู้เห็นอะไรไม่เห็นอะไรก็ตาม
"ส่วนบุญกุศลเกิดขึ้นจากการภาวนา เป็นรากฐานสำคัญและมีอานิสงส์มากด้วย จึงขอให้พากันตั้งอกตั้งใจทำภาวนา บำรุงลำต้นให้ดี กิ่งก้านสาขาดอกใบจะแตกกระจายออกไป" .. "
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=250&CatID=2