ก็ต้องให้ธรรมะซิครับ เพราะมีพุทธภาษิตตรัสรับรองไว้ว่า สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมะเป็นทาน ย่อมชนะ การให้ทั้งปวง ทำไมการให้ธรรมะจึงชนะการให้อย่างอื่น ? ก็เพราะว่า การให้อย่างอื่น เช่นให้ข้าวของเงินทอง จะให้ประโยชน์แก่ผู้รับก็เฉพาะในโลกนี้เท่านั้น ไม่สามารถติดตามให้ประโยชน์ไปยังโลกหน้าได้ และอีกประการหนึ่ง ถึงแม้จะให้ประโยชน์อย่างไร ก็ไม่เคยทำให้ผู้รับดับทุกข์ได้เลย ซึ่งต่างจาก การให้ธรรมะเป็นทาน ถ้าผู้รับน้อมนำธรรมะนั้นมาปฏิบัติ หรือมาพิจารณาตาม ความทุกข์ที่มีอยู่ในใจก็สามารถดับลงได้โดยไม่ยาก ธรรมะมีไว้เพื่อชี้ทางดับทุกข์ บางคนร่ำรวย แต่ไม่รู้ธรรมะ เขาก็เลยไม่รู้ทางที่จะดับทุกข์ให้แก่ตัวเอง ถ้ารวยแล้วยังทุกข์ ก็ถือว่ายังเป็นชีวิตที่ไม่มีความสุขอย่างแท้จริง
ฉะนั้น การให้ธรรมะ จึงถือว่าเป็นการให้ที่ทรงคุณค่าอย่างมหาศาล ธรรมะ ได้ชื่อว่าเป็นของเลิศ ของประเสริฐ เพราะแม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังทรงให้ความเคารพต่อธรรมะ ในเมื่อธรรมะเป็นของเลิศของประเสริฐ ผู้ที่ให้ธรรมะจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้ ของเลิศของประเสริฐ ผู้ที่ให้ของเลิศก็ย่อมเข้าถึงฐานะอันเลิศเสมอ... นี่คืออานิสงส์ ฉะนั้น ท่านคงหมดสงสัยแล้วว่า ทำไมท่านจึงสรรเสริญ การให้ธรรมะเป็นทานว่าจึงชนะการให้ทั้งปวง