ปัญหาเรื่องการให้ ถ้าจะว่าค่อนข้างยาก ก็มีความยากอยู่ในตัว ยากกว่าการรับ เพราะตามธรรมดาจิตใจของคนเราเมื่อหาอะไรมาได้ไว้เป็นของตัวแล้วก็หวง ความหวงนั้นเป็นศัตรูกับการให้ เมื่อลงได้หวงแล้วก็ไม่อยากให้ของ ที่หวงไว้นั้น ความจริงก็หวงไว้สำหรับตัวเอง คือเห็นแก่ประโยชน์ตนที่ไม่สมัครให้ ก็เพราะรู้ว่าการให้นั้น เป็นการทำลายประโยชน์ตน มีแต่ไปพอกพูนให้คนอื่น คิดเสียอย่างนี้แล้ว ก็เลยไม่อยากให้ เก็บไว้กินคนเดียวดีกว่า
แต่ถ้าคิดตามเหตุผลแล้ว ที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ให้ศาสนิกชนบำเพ็ญทาน คือให้แบ่งปันของๆตนแก่คนอื่น ก็เพื่อประโยชน์แก่ผู้ให้นั่นเอง คือเป็นการช่วยตัวคนให้นั่นแหละ นี่เป็นความมุ่งหมายตามพระพุทธประสงค์ พิจารณาถึงผลการให้ ตามความมุ่งหมายของสังคหวัตถุ คือการให้ปัน ผู้ให้ได้ผลถึง ๒ ชั้น ได้ผลชนิดที่ “กำไรงาม”เสียด้วย ยากที่จะไปลงทุนลงแรงทำอย่างอื่น ให้ได้เปอร์เซ็นต์ผลกำไรเท่ากับการให้ปัน ที่ว่าการให้ปันได้ผล ๒ ชั้น นั้นคือ
ก. ได้ความรักจากผู้รับ
ข. ได้อามิสตอบแทน