เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เล่าค้างเอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องราวของพระภิกษุณีรูปหนึ่งที่มีนามว่า "อิสิทาสี" ท่านกำลังจะเล่าถึงวิบากกรรมที่ทำให้ท่านต้องหย่าร้างจากสามีคนแล้วคนเล่า
วิบากกรรมที่ทำเอาไว้เป็นอย่างไรเราลองมาฟังจากการบอกเล่าของท่าน
"ดิฉันจะเล่าวิบากแห่งกรรมนั้นให้ท่านฟังขอท่านจงมีใจเป็นหนึ่ง ตั้งใจฟังวิบากแห่งกรรมนั้นเถิด ในสมัยนั้นดิฉันเกิดเป็นนายช่างทองมีทรัพย์สมบัติมาก อยู่ในนครเอรกกัจนะเป็นคน
มัวเมาลุ่มหลงด้วยความเป็นหนุ่มจึงได้คบชู้กับภรรยาของชายอื่น
ครั้นเมื่อดิฉันได้จุติ (ตาย) จากชาตินั้นแล้วต้องหมกไหม้อยู่ในนรกตลอดกาลนาน เมื่อพ้นจากนรกแล้วก็ได้ไปเกิดในท้องของนางวานร พอคลอดได้ ๗ วัน วานรใหญ่ที่เป็นหัวหน้าฝูงก็ได้กัดอวัยวะสืบพันธุ์ของดิฉันเสีย
นี่เป็นผลกรรมเก่าของดิฉันที่ได้คบชู้กับภรรยาของชายอื่น เมื่อดิฉันตายจากกำเนิดวานรนั้นแล้วก็ได้ไปเกิดในท้องนางแพะตาบอดอยู่ในแคว้นสินธู เมื่อมีอายุได้ ๑๒ ปี ก็ถูกเด็กตัด
อวัยวะสืบพันธุ์ทิ้งเสีย ต่อมาก็เป็นโรคถูกหมู่หนอนฟอนเฟะที่อวัยวะสืบพันธุ์ นี่เพราะโทษที่ดิฉันได้คบชู้กับภรรยาของชายอื่น ิฉันจุติจากกำเนิดแพะนั้นแล้ว ก็ได้ไปเกิดในท้องแม่โคของ
พ่อค้าคนหนึ่งเป็นลูกโคมีขนสีแดงเหมือนสีครั่ง พอมีอายุได้ ๑๒ เดือน ก็ถูกตอนดิฉันถูกเขาใช้เทียมไถและเข็นเกวียนต่อมาเป็นโรคตาบอดเป็นโคกระจอก
เป็นโคขี้โรค...
นี่ก็เพราะโทษที่ดิฉันได้คบชู้กับภรรยาของชายอื่น ดิฉันจุติจากกำเนิดโคนั่นแล้ว ก็ไปเกิดในเรือนของนางทาสีจะเป็นหญิงก็ไม่ใช่จะเป็นชายก็ไม่เชิงนี่ก็เพราะโทษที่ดิฉันได้คบชู้กับ
ภรรยาของชายอื่น ดิฉันมีอายุได้ ๓๐ ปี ก็ตายแล้วมาเกิดเป็นลูกหญิงในสกุลของช่างสานเสื่อ เป็นสกุลขัดสนมีทรัพย์น้อยถูกแต่เจ้าหนี้รุมทวงอยู่เป็นนิตย์ ต่อมาเมื่อเป็นหนี้มากขึ้น
พ่อค้าเกวียนคนหนึ่งมาริบทรัพย์สมบัติแล้วก็ฉุดเอาดิฉันลงจากเรือนไป ภายหลังที่ดิฉันมีอายุครบ ๑๖ ปี บุตรของพ่อค้าเกวียนนั้นมีชื่อว่า "คิริทาส" ได้เห็นดิฉันเป็นสาว
กำลังรุ่นมีจิตปฏิพัทธ์รักใคร่ขอไปเป็นภรรยา แต่ว่านายคิริทาสนั้นมีภรรยาอยู่ก่อนแล้วคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนมีศีลทรงคุณสมบัติท ั้งมียศรักใคร่สามีเป็นอย่างดียิ่ง ดิฉันได้บังคับนายคิริทาส
ให้ขับไล่ภรรยาของตนไป...นี่ก็เป็นต้นเหตุทำให้สามีต้องหย่าร้างกับดิฉัน ผู้ได้บำรุงสามีเหมือนทาสีไปนี่เป็นผลแห่งการคบชู้กับภรรยาของชายอื่นและได้บังคับสามีให้ขับไล่ภรรยาเก่าของเขาไป ที่สุดผลแห่งบาปกรรมนั้นดิฉันก็ได้ทำเสร็จแล้ว"
ทั้งหมดนี้เป็นคำบอกเล่าของพระอิสิทาสีเถรี ปรากฏอยู่ในอิสิทาสีเถรีคาถาพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ หน้า ๕๐๐ เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์จึงได้นำมาถ่ายทอด
เล่าสู่กันฟัง
|
|