"ทุ สะ นะ โส" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

 วิริยะ12  4,991 

 "ทุ สะ นะ โส"

" .. พวกนี้เป็นพวกเศรษฐี เศรษฐีมีเงินมีทองมากถ้าไม่มีธรรมะแล้วลืมตัว และพวกนี้ก็คือพวกลืมตัว มีเงินมีทองข้าวของแล้วไปจ้างไปอะไรทุกประเภทว่างั้นเถอะนะ คนทำไมเขาจะไม่ต้องการเงิน จ้างที่ไหนก็ได้ซีเงิน

นี่ละทำความเสียหายแก่ตน ไม่ว่าลูกใครเมียใครไปเอาหมดเลย ทีนี้มันทำลายจิตใจของคนขนาดไหน "ผัวใครเมียใครใครไม่รัก ไปทำลายเมียเขาไปทำลายผัวเขา"

นั้นคือไปทำลายจิตใจของเขา จะหนักมากขนาดไหน แล้วผัวคนนี้เมียคนนี้ก็ทำลาย คนนั้นก็ทำลาย ๆ ทำลายไปหมด

ต่างคนต่างทำลายอย่างนี้ต่างคนจึงต่างเจ็บต่างแสบ ความเจ็บความแสบทั้งหมดรวมเข้ามาหาผู้ที่ทำนี้ทั้งหมด เพราะนี้เป็นผู้ทำเป็นผู้สร้างกรรม กรรมจะไปไหนก็มาหาผู้นี้ทั้งนั้น

ทีนี้เวลาตายแล้ว เราจะยกตัวอย่างให้ฟังนะ ที่เคยกล่าวคาถาย่อ ๆ "ทุ สะ นะ โส" นี่เป็นภาษาย่อ

ภาษายาว ทุ คือ
ทุชฺชีวิตมชีวิมฺหา เยสํ โน น ททามฺห เส
วิชฺชมาเนสุ โภเคสุ ทีปํ นากมฺห อตฺตโนติ


พวกเราทั้งหลายเหล่าใดในเมื่อยังมีโภคทรัพย์อยู่ก็ไม่ได้ทำบุญให้ทาน ไม่ได้ทำที่พึ่งแก่ตน พวกเราทั้งหลายเหล่านั้นจัดว่าเป็นผู้มีชีวิตอันชั่วช้าลามกที่สุด

สะ นี่หมายถึง
สฏฺฐี วสฺสสหสฺสานิ ปริปุณฺณานิ สพฺพโส
นิรเย ปจฺจมานานํ กทา อนฺโต ภวิสฺสตีติ


เมื่อพวกเราทั้งหลายถูกไฟไหม้อยู่ในนรกตั้ง ๖ หมื่นปีบริบูรณ์ เมื่อไรที่สุดแห่งทุกข์เหล่านี้จะปรากฏแก่ พวกเรา

นะ คือว่า
นตฺถิ อนฺโต กุโต อนฺโต น อนฺโต ปฏิทิสฺสติ
ตทา หิ ปกตํ ปาปํ มม ตุยฺหญฺจ มาริสาติ


ดูก่อนท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ที่สุดแห่งทุกข์ของเรานั้นย่อมไม่มี ที่สุดแห่งทุกข์นี้จะมีมาจากที่ไหน เพราะว่ากรรมชั่วช้าลามกเหล่านั้น พวกเราและท่านทั้งหลายได้ทำไว้เต็มที่แล้ว

โส คือ
โสหํ นูน อิโต คนฺตฺวา โยนึ ลทฺธาน มานุสึ
วทญฺญู สีลสมฺปนฺโน กาหามิ กุสลํ พหุนฺติ


เรานั้นเมื่อได้พ้นจากนรกนี้แล้วจะเป็นผู้ไม่ประมาท เป็นผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยทาน จะกระทำกุศลให้มากมูนแน่นอน

ในเวลากล่าวคาถานั้นต่างมีความรื่นเริง เหมือนกับว่าจะได้พ้นจากนรกในวันพรุ่งนี้ ทั้ง ๆ ที่ตั้ง ๖ หมื่นปี ฟังซิ มีเวลากระหยิ่ม นรกร้อนขนาดไหน พอพ้นจากนรกแล้วจะไปสร้างบุญกุศลให้เต็มความสามารถให้มากมูนที่สุดเลย แล้วกระหยิ่มในขณะนั้นครู่หนึ่ง เหมือนว่าจะได้พ้นจากนรกในวันพรุ่งนี้ นี่ละ ทุ สะ นะ โส

...

นี่ละพวกเศรษฐีที่มีเงินมาก ๆ ลืมเนื้อลืมตัว ไปทำ "กาเมสุ มิจฉาจาร" เป็นที่เด่นที่สุด พวกสกุลเศรษฐี ๔ คน ท่านกล่าวไว้ในธรรมบท แล้วกรรมอันนี้แหละไปเผาพวกสกุลเศรษฐีอยู่เวลานี้ ยังกล่าวคาถานี้ไม่จบเลย เมื่อไรจะกล่าวจบ

นตฺถิ อนฺโต .... ที่สุดแห่งทุกข์ในนรกนี้เมื่อไรจะปรากฏแก่พวกเรา ไม่ปรากฏว่างั้นเลย เพราะกรรมชั่วอันนั้น ๆ เพราะเราและท่านได้ทำไว้แล้วอย่างมากมาย จะไปสิ้นสุดได้อย่างไร นั่นคำแปลแล้ว .. "

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด ๑๔ มีนาคม ๒๕๓๒


http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1081&CatID=2
    


RELATED STORIES



จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย