อยู่ท่ามกลางความทุกข์ แต่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นทุกข์เลย
แพทย์พยาบาล ทั้งหลาย ได้เห็นทุกข์
วันวันขลุก อยู่กับโศก โรครุมเร้า
มองทางไหน เห็นคน หม่นหมองเศร้า
อาชีพเรา เพียงเท่านี้ หรือที่ทำ
วิชาแพทย์ พยาบาล อาจารย์สอน
ได้แค่ถอน เจ็บปวดกาย คลายปวดช้ำ
แต่วัฏฏะ คนเกิดตาย เวียนว่ายกรรม
ทุกข์กระหน่ำ ซ้ำซาก ทุกข์ยากนาน
มีทางเดิน คือทาง สมณะ
จึงจักละ เหตุทุกข์ได้ ให้แก่นสาร
การออกบวช ละสังโยชน์ ทุกข์โทษพาล
ฝึกจิตท่าน ด้วยองค์มรรค จักสวัสดี........มีสุขแล..
เรายังมองไม่เห็นความสวัสดี
จักมีแก่สัตว์ทั้งหลาย
นอกจากปัญญาและความเพียร
นอกจากความสำรวมอินทรีย์
และความสละวางทุกสิ่งทุกอย่าง
เจริญในธรรมครับ.
หากยึดติดกายใจ ไม่ใฝ่ดี
คงจะหนีซึ่งทุกข์นั้นได้ยาก
จากเบื้องบนสู่เบื้องล่างเฝ้ามองหา
ที่ไหนหนาหนทางดับทุกข์ใจ
อยากแจ้งใจทุกที่ที่รู้ตน
# 1 / jaru_aueng / 24 ส.ค. 2553 เวลา 23:34 น.
เพราะชีวิต ติดอยู่ ในความสุข
มิรู้จัก ว่า ทุกข์ ก่อสืบสาน
ทั้งที่ทุกข์ ติดในจิต ชิดมานาน
กลับมองผ่าน มองเห็น เป็นธรรมดา
แค่ลืมตา แต่ละวัน ก็ทุกข์แล้ว
ไม่เคยแคล้ว กลับลามเลาะ เพาะตัณหา
อยากจะได้ อยากมี-เป็น เน้นกายา
เพื่อบำรุง ปรุงชีวา ตามต้องการ
เมื่อมีแล้ว ได้แล้ว และเป็นแล้ว
ก็มิอยาก ให้คลาดแคล้ว ให้อยู่ผสาน
อยากให้ดำรง คงไว้ นานเท่านาน
ทุกข์จึงราน ร้อนรุม ดั่งสุมไฟ
ต้องดิ้นรน หาหนทาง ให้ได้ครอง
จิตจึงหมอง หวาดระแวง คลางแคลงไฉน
เมื่อไม่ได้ ดั่งที่ ปรารถนาไว้
จึงหม่นไหม้ ทุกข์ตรม ขมฤดี
แม้ต้องอยู่ กับสิ่ง มิได้ชอบ
จิตจึงกอบ ด้วยทุกข์มา พาสิ้นศรี
ความโทมนัส หมองเศร้า ร้าวฤดี
ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
เพราะยึดมั่น อุปทาน ในขันธ์ไว้
ทุกข์โลมไล้ เช้าค่ำ ย้ำให้เห็น
นี่แหล่ะทุกข์ ที่เกิดมา น้ำตากระเซ็น
ทุกเช้าเย็น วนวัฏฏา มาช้านาน
มีทางเดิน คือทาง สมณะ
จึงจักละ เหตุทุกข์ได้ ให้แก่นสาร
การออกบวช ละสังโยชน์ ทุกข์โทษพาล
ฝึกจิตท่าน ด้วยองค์มรรค จักสวัสดี........มีสุขแล.. มหาราชันย์
เจริญในธรรมค่ะ
# 2 / กระบี่ไร้เงา / 12 ก.ย. 2553 เวลา 20:53 น.
เปิดอ่านหน้านี้ 5585