"โทษของความโลภ" (สมเด็จพระสังฆราชเจ้า)

 วิริยะ12  

.
 "โทษของความโลภ"

" .. "ความโลภไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นได้เลย" วัตถุสิ่งของเงินทองทั้งหลายที่ได้จากความโลภนั้นดูเผิน ๆ เหมือนเป็นการยกฐานะเพิ่มความมั่นคง แด่ลึกลงไปจะเป็นการทำลายมากกว่า

"สิ่งที่ได้จากความโลภมักจะเป็นสิ่งไม่สมควร" มักจะเป็นการได้จากความต้องเสียของผู้อื่น ผู้อื่นทั้งหลายที่ต้องเสียนั่นแหละจะเป็นเหตุทำลายความไม่ไว้วางใจของคนทั้งหลายจะเป็นเครื่องทำลายอย่างยิ่ง จะเป็นเหตุให้อะไรร้าย ๆ ตามมา

เมื่อถึงเวลาอะไรร้าย ๆ นั้นก็จะทำลายผู้มีความโลภจนเกินการ เมื่อเวลานั้นมาถึงก็จะสายเกินไปจนไม่มีผู้ใดจะช่วยได้ ฉะนั้น "ก็ควรหมั่นพิจารณาให้เห็นโทษของกิเลส คือความโลภ" เสียตั้งแต่ยังไม่สายเกินไป

"ถ้าความโลภเป็นความดี พระพุทธเจ้าก็จักไม่ทรงสอนให้ละความโลภและพระองค์เองก็จะไม่ทรงพากเพียรปฏิบัติละความโลภ" จนเป็นที่ปรากฏประจักษ์ว่าทรงละความโลภได้อย่างหมดจดสิ้นเชิง เป็นแบบอย่างที่บริสุทธิ์สูงส่งยั่งยืนอยู่ตลอดมา จนทุกวันนี้แม้ว่าจะได้ทรงดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วกว่าสองพันห้าร้อยปี .. "

"แสงส่องใจ"
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
 

5,584







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย