คนมีปัญญาย่อมหาอุบายรักษาศีล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

 จำปาพร  

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมมีทั้งเหตุมีทั้งผล
ประกอบกันไปได้ ไม่ใช่พระองค์แสดงแต่เหตุ
ผล..พระองค์ก็แสดง ก็เช่นอย่างว่า

สีเลน สุคตึ ยนฺติ อย่างนี้นะ
ผู้มีศีลจะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ได้
การรักษาศีลนั้นก็ได้ชื่อ ทำเหตุแห่งความดี
เมื่อหมดอายุสังขารลงแล้ว
อานิสงส์แห่งศีลนั้นจักนำดวงจิตนี้
ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์อย่างนี้นะ
นี่ที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมมีทั้งเหตุมีทั้งผลอย่างนี้

แต่ถ้าใครไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างว่านี้แล้วก็
มันก็ไม่รักษาศีลตามแล...ไม่เชื่อ..บอก..โอ้ย..
พระพุทธเจ้านี่ทรงสอนให้คนทำดีต่อกันในโลกนี้เท่านั้นหรอก
ไม่มีทางหรอกที่จะไปสวรรค์ด้วยการรักษาศีลอย่างว่านี้
ถ้าไปคิดเห็นอย่างนั้นแล้วมันก็ไม่รักษาศีลแล้..แล้วก็อ้างนู่นอ้างนี่ว่า
ถ้ารักษาศีลแล้วก็ไม่ได้อยู่ได้กินอะไร มันขัดข้อง

ทำการค้าการขายหมู่นี้มันล้วนแต่โกหก
ดังนั้นถ้าไปรักษาศีลแล้วทำการค้ามันจะมีกำไรได้อย่างไร
ทำนาทำสวนก็เหมือนกันแหล่ะ
เอาสำหรับสมัยปัจจุบันนี้น่ะเป็นปัญหาใหญ่
เมื่อปลูกพืชอะไรลงไปแล้วอย่างนี้
มันก็มีศัตรูพืชเกิดขึ้น มีตัวแมลงอะไรต่ออะไรมา
กัดกินต้นหมากรากไม้หมู่นั้น
และจำเป็นต้องไปฉีดยาป้องกันไว้
แต่คนทั้งหลายก็เข้าใจว่า ฉีดยาฆ่าแมลงแลบัดนี้นะ
เมื่อเป็นเช่นนี้จะทำอย่างไรมันจึงจะมีศีลได้
ถ้าไม่ฉีดยาอย่างนั้น การปลูกพืชต่างๆ
ลงไปในดินนั้นก็จะไม่ได้รับผลเลย
มันก็คิดฉงนอยู่ภายในจิตใจ
มากเหมือนกันแหละเรื่องหมู่นี้


ดังนั้นมันก็ต้องอาศัยปัญญาบ้างแหละคนเราน่ะ
เข้าทำนองที่ว่า "มันต้องล้อมคอกไว้ก่อนวัวควายหาย"
อันนี้ก็เหมือนกันแหละ มันก็ต้องฉีดยา
กันไว้ก่อนที่เกิดตัวแมลงต่างๆขึ้นมา
ถ้าฉีดยากันไว้แล้วอย่างนี้มันก็ไม่เกิดขึ้น
อันนี้ถ้าปล่อยให้ตัวแมลงเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงไปฉีดยา
อย่างนี้นี่ตัวแมลงมันก็ตาย ก็อย่างว่านั้นแหล่ะ
มันก็ต้องมีอุบายปัญญาอย่างนี้

คนเราน่ะ ถ้าผู้มีปัญญาแล้วจึงรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้

...

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


5,577







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย