เดิมกองใบไม้นี่ไม่มีหรอก แต่เราไปกวาดมันมารวม : หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต

 จำปาพร  

พระอาจารย์มหาปิ่น ชลิโต
วัดอริยวงศาราม (วัดหนองน้ำขาว)
อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

...

จิตนั้นมันต่างกว่าธรรมชาติ
ไอ้จิตนี้มัน..มันเป็นธาตุรู้ มันเป็นธาตุรู้
ทีนี้มันแลบออก มันส่งออกไปข้างนอกตัวรู้นี่
ถ้ามันถอยเข้ามาในรู้แล้ว มันก็ถอยเข้ามารู้ตัวของมันลงไป
ถอยลงรู้ๆลงไป ไม่มีเรื่อง มันมีแต่เราจะรู้จักเรื่องในรู้นี้เข้าไป
ละเอียดเข้าไปโดยลำดับ แต่ถ้ามันส่งออก
ส่งออกมันก็ไปกวาดไอ้สัญญา สัญญาอดีตน่ะ
ก็ไปกวาดสัญญาอดีตเข้ามารวมพั่บเข้า
มันมองเห็นไอตัวกลุ่มนั้นน่ะเป็นตัวขึ้นมาแล้ว

ความจริงน่ะ ตัวปรุงกะตัวปรุง มันยึดกัน
ตัวปรุงกับตัวปรุงน่ะมันยึดกัน ยึดกันอย่างนามธรรม
เหมือนควันต่อควันยึดกลุ่มกันน่ะเป็นกลุ่มขึ้นมาน่ะ
ดูซิเมฆใหญ่โตกว้างขวาง นี่มันก็ไอน้ำที่มันไปในเนี่ย
ไปจากดินจากในน้ำนี่ไปรวมกลุ่มเข้าเป็นเมฆน่ะ

แต่กว่าเราจะรู้มันเป็นใหญ่โตอย่างนั้นน่ะ
ไอ้นั่นเราทิ้งระยะเวลาช่วงมันยาวมาก
แต่ถ้าเรารู้ตั้งแต่ต้นนี่ขึ้นไป คอยมีสติ
สติคอยตัด สติคอยตัดตัวปรุง สติคอยตัดตัวปรุง
เมื่อสติคอยตัดตัวปรุงอยู่มันก็ไม่มีอะไร

เพราะฉะนั้นไอ้ตัวปรุงนี้ ตัวปรุงนี้มันก็มีตัวตัณหาข้างในนี้ก่อน
เพราะมันมีความต้องการ เพราะมันมีความต้องการมันจึงแลบออก
แลบออกมันเร็วเหลือเกินน่ะ มันกวาดเร็ว
เหมือนกับเรากวาดไอ้ใบไม้มารวมกันนั่นแหละ
มารวมในกองนั่นแหละ ไอ้เดิมกองใบไม้นี่ไม่มีหรอก
แต่เราไปกวาดมันมารวม มันก็เป็นกองขึ้นมา
ไอ้นี่เหมือนกัน สัญญาอดีตเขาก็ดับไปเป็นอดีตไปหมดแล้ว
เรื่องที่ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้ลิ้มรส
กายได้สัมผัสแล้วรู้ เขาดับหายไม่มีเหลืออะไรหรอก
แต่ไอ้สัญญาอดีตเนี่ยไปกว้านเอามา

...

ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "การฝึกตน"

5,586







จีรัง กรุ๊ป    

 ธรรมะไทย