ระหว่างที่เราเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะไปทางรถ ไม่ว่าจะไปทางเรือถ้าเราเป็นผู้ไม่
ประมาทเราก็ควรจะฝึกสมาธิไปด้วยในขณะที่เดินทาง อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยไร้
ประโยชน์โดยเริ่มกันตั้งแต่ตอนเดินเลยทีเดียว ในขณะที่กำลังจะเดินไปรอรถ หรือจะไปรอ
เรือก็ตาม ก็ให้กำหนดภาวนาไปด้วย
ก้าวเท้าขวา ภาวนาว่า "พุท"
ก้าวเท้าซ้าย ภาวนาว่า "โธ"
พุท-โธ.....พุท-โธ....พุท-โธ....เรื่อยๆไป ตามจังหวะการก้าวเดินเมื่อถึงที่หมาย เช่นที่ป้าย
รถเมล์หรือท่าเรือ ระหว่างที่รอรถ รอเรืออยู่ ก็อย่ายืนเฉยๆ ควรภาวนาไปด้วย
ก้าวเท้าขวา ภาวนาว่า "พุท"
ก้าวเท้าซ้าย ภาวนาว่า "โธ"
พุท-โธ....พุท-โธ....พุท-โธ.....อย่างนี้เรื่อยๆไป จนกว่ารถหรือเรือจะมาถ้าทำได้อย่างนี้เราจะ
ไม่รู้สึกรำคาญเลย ถึงแม้ว่าจะต้องรอรถรอเรือเป็นเวลานานก็ตามที เมื่อขึ้นไปอยู่บนรถ หรือ
ลงไปอยู่ในเรือแล้ว ก็อย่านั่ง หรืออย่ายืนเฉยๆ ให้ภาวนาไปด้วย....พุท-โธ....พุท-โธ....พุท-โธ
....จนกว่าจะถึง
สรุปหลักให้ฟังอีกครั้งก็คือ ถ้าระหว่างที่เดิน ก็ให้ภาวนาควบคู่ไปกับการก้าวเท้า....ก้าวเท้า
ขวาก็ให้ภาวนาว่า "พุท" ....ก้าวเท้าซ้ายก็ให้ภาวนาว่า "โธ" พอยุติการเดิน เปลี่ยนมาเป็น
ยืนหรือนั่ง ก็ให้มากำหนดที่ลมหายใจแทน....หายใจเข้า "พุท" ....หายใจออก "โธ" ทำสับ
เปลี่ยนกันอยู่อย่างนี้ ตลอดระยะเวลาที่เดินทาง จะทำให้จิตใจปลอดโปร่งสบาย ไม่หงุดหงิด
ไม่รำคาญ ถึงแม้จะต้องเบียดเสียดกับผู้คนก็ตาม
ผลดีอีกประการหนึ่ง คือถ้ารถหรือเรือที่เรานั่งไปนั้น เกิดประสบอุบัติเหตุด้วยอำนาจแห่ง
สมาธิที่เราฝึกฝนอยู่นั้น มันก็จะช่วยทำให้เรารอดพ้นจากภัยอันตรายได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือ
ถ้ามีเหตุที่ทำให้ต้องตายในระหว่างเดินทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ยังได้ชื่อว่า ตายดี เพราะ
ตายในขณะที่จิตทรงอยู่ในสมาธิ ตายแบบนี้ไม่มีขาดทุน แต่ถ้าไม่มีสมาธิเป็นเครื่องหนุน
รับรองขาดทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ และขาดทุนกันทั้งชาติด้วยเพราะช่วงที่จะตายนี้ ท่านถือว่าเป็น
ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ถ้าจิตในขณะนั้นซัดส่าย เศร้าหมอง ตายไปก็มีหวังได้ไปถือกำเนิด
ในภพภูมิฝ่ายทุคติอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะกลับมาเกิดเป็นคน ก็ต้องลำบากลำบนเสียก่อน
เป็นเบื้องแรก เพราะจิตที่เศร้าหมองได้ทำหน้าที่เป็นชนกกรรมนำมาเกิดนั่นเองถ้าจิตมันเศร้า
หมองได้ทำหน้าที่เป็นชนกกรรมนำมาเกิดนั่นเองถ้าจิตมันเศร้าหมองแล้ว ถึงแม้จะเกิด มันก็
เกิดในที่ซึ่งไม่ดีไม่มีความสุขสบายเท่าที่ควร ฉะนั้น การซักฟอกจิตใจให้ใสสะอาดอยู่เสมอ
จึงเป็นวิธีป้องกันอบายได้ดีที่สุด เมื่อท่านรู้อย่างนี้แล้ว เวลาท่านเดินทางไปไหนมาไหน ท่าน
ยังจะปล่อยจิตใจให้ฟุ้งซ่านอยู่อีกหรือ