วัดแห่งหนึ่งอยู่ในจังหวัดภาคกลาง เจ้าคะณะตำบลแต่งตั้งเจ้าคณะอำเภอให้ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสเพื่อดูแลผลประโยชน์ของวัดแห่งนี้ มีเนื้อที่ประมาณ 200 ไร่
วัดแห่งนี้มีโรงเรียนการกุศลของวัด
ปัจจุบันมีผู้จัดการและผู้อำนวยการหัวใสของโรงเรียนแห่งนี้ สร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ไข่ 7.5 หมื่นตัว โดยใช้แรงงานเด็กนักเรียนอ้างว่าเพื่อการฝึกงานของเด็ก
โครงการนี้เจ้าคณะตำบลรับทราบแล้ว
เจ้าคณะอำเภอรับทราบแล้ว
เจ้าคณะจังหวัดรับทราบแล้ว
เจ้าคณะภาครับทราบแล้ว.....เป็นถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ
เจ้าคณะหนชั้นสมเด็จและเป็นกรรมการเถรสมาคมด้วยก็รับทราบแล้ว....เป็นเจ้าอาวาสวัดพระอารมหลวงชื่อดังในกรุงเทพ ฯ
กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2547 ไข้หวัดนกระบาด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเข้าไปตรวจสอบไก่ทั้งหมด และสั่งให้ฆ่าทำลายไก่ทั้งหมด 72,485 ตัว และเสนอให้เงินชดเชยช่วยเหลือแก่โรงเรียนตัวละ 140 บาท ผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ตนเองเป็นผู้รับเงิน 10.1479 ล้านบาทไปแต่เพียงผู้เดียว
ขอถามท่านทั้งหลายว่า ในกรณีมีการเลี้ยงไก่ในที่ธรณีสงฆ์หรือที่วัดอย่างนี้ แล้วมีการฆ่าไก่ไปถึง 72,485 ตัว
เจ้าคณะตำบลผิดพระวินัยไหม และบาปไหม ?
เจ้าคณะอำเภอผิดพระวินัยไหม และบาปไหม ?
เจ้าคณะจังหวัดผิดพระวินัยไหม และบาปไหม ?
เจ้าคณะภาค ผิดพระวินัยไหม และบาปไหม ?
เจ้าคณะหนชั้นสมเด็จกรรมการเถรสมาคมผิดพระวินัยไหม และบาปไหม ?
ขอขอบคุณครับ
ถ้าท่านเหล่านั้น มีส่วนในการทำให้ไก่ตาย เช่นเห็นด้วยกับการฆ่าในวัด ไม่ห้ามปราม ไม่ขัดขวาง และส่งเสริมให้มีการฆ่า ถือว่าท่านทำผิดข้อ ปาณาติปาตา ทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง ท่านก็เป็นอาบัติปาจิตตีย์ และบาปแน่นอน
แต่ถ้าท่านไม่ได้ส่งเสริมให้ฆ่า ไม่รู้เห็นเป็นใจ และไม่มีส่วนได้เสียกับการฆ่าไก่เพื่อขาย ท่านก็ไม่ผิดวินัย และไม่บาป ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมด การเลี้ยงและฆ่าไก่ในวัดถือว่าเป็นเขตอภัยทาน ไม่สมควรมีเป็นอย่างยิ่ง คนเขียนกระทู้น่าจะบอกชื่อวัดจริงและที่อยู่ด้วย จะได้ช่วยกันจัดการ และให้เป็นข่าวเสียบ้าง เรื่องแบบนี้จะได้ไม่เกิดขึ้นในวัดของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเขตเมตตาธรรม และเขตอภัยทาน
ผิดพลาดอย่างไร ผู้รู้ช่วยเสริมก็แล้วกัน จาก อภิสุทฺโธ ภิกฺขุ
ข้อมูลเท่าที่คุณสัมมาอาชีวะบอกมานี้ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า...
เจ้าคณะตำบล ไม่ผิดพระวินัย เพราะท่านไม่ใช่ผู้ฆ่า อีกทั้งไม่ใช่ผู้สั่งให้ฆ่า
เจ้าคณะอำเภอ ไม่ผิดพระวินัย เพราะท่านไม่ใช่ผู้ฆ่า อีกทั้งไม่ใช่ผู้สั่งให้ฆ่า
เจ้าคณะจังหวัด ไม่ผิดพระวินัย เพราะท่านไม่ใช่ผู้ฆ่า อีกทั้งไม่ใช่ผู้สั่งให้ฆ่า
เจ้าคณะภาค ไม่ผิดพระวินัย เพราะท่านไม่ใช่ผู้ฆ่า อีกทั้งไม่ใช่ผู้สั่งให้ฆ่า
เจ้าคณะหนชั้นสมเด็จกรรมการเถรสมาคม ไม่ผิดพระวินัย เพราะท่านไม่ใช่ผู้ฆ่า อีกทั้งไม่ใช่ผู้สั่งให้ฆ่า
ไก่เหล่านั้น 72485 ตัว จาก 75000 ตัว ติดเชื้อโรคร้ายแรง หากไม่กำจัดจะเป็นภัยคุกคามต่อสังคมแวดล้อมอย่างรุนแรง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ฆ่าก็ไม่บาป ...เพราะทำไปตามหน้าที่มิใช่ด้วยอำนาจความพยาบาท (มันเป็นกรรมของไก่72485 ตัว เหล่านั้น)
ส่วนเรื่องการเลี้ยงไก่ในวัด อีกทั้งเรือ่งเงินชดเชยข้าพเจ้าไม่ขอแสดงความคิดเห็นครับ
.....ใช่ไม่ใช่ ถูกไม่ถูก ควรไม่ควร พิจารณาดูเถิดครับ
องค์ประกอบของศีล การปาณาติบาต
๑. สัตว์นั้นมีชีวิต
๒. รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
๓. มีจิตคิดฆ่า
๔. มีความเพียรที่จะฆ่า
๕. สัตว์ตายด้วยความเพียรนั้น
บาปจากการฆ่า จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ เจตนา เป็นหลัก และองค์ประกอบของผู้ถูกฆ่าเป็นใคร ฆ่าเพื่อยังชีพ ฆ่าเพื่อความสนุก ฆ่ามด กับฆ่ามนุษย์ บาปย่อมต่างกัน
แต่อย่าประมาทในผลของบาปกรรม น้ำหยดวันละหยดยังเต็มตุ่ม สะสมบาปเล็กน้อยไว้มากๆ ก็จะกลายเป็นบาปใหญ่ในที่สุด
ดังนั้นขึ้นชื่อว่าบาปไม่ทำเสียเลยดีที่สุด
เจ้าคณะตำบล
เจ้าคณะอำเภอ
เจ้าคณะจังหวัด
เจ้าคณะภาค
เจ้าคณะหนชั้นสมเด็จกรรมการเถรสมาคม
หากท่านทั้งหลายไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้สั่ง ไม่ได้เห็นชอบ บาปย่อมไม่มีแก่ท่านแน่นอน
ส่วนคนสั่ง คนฆ่าบาปแน่นอน ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไร เพราะ สิ่งมีชิวิตล้วนแต่รักชีวิตของตนทั้งนั้น ไม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินชีวิตคนอื่น ลองมีคนมาบอกว่า คุณเป็นโรคร้ายแรง ต้องกำจัดทิ้ง เพื่อมิให้โรคระบาดไปสู่คนอื่น คุณจะยอมมั้ย ชีวิตใครใครก็รัก
มีการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ในธรณีสงฆ์ เป็นกิจจะลักษณะเช่นนี้ แล้วไม่ใช่จำนวน
น้อยๆ แต่นับเป็นหมื่นๆชีวิต ก็ผิดพระวินัยสงฆ์อยู่อย่างชัดเจนแล้ว
ถ้าพระระดับผู้ใหญ่อนุญาติ ท่านก็ผิด
ไก่นั้นมีจุดประสงค์เลี้ยงไว้เพื่อเอาไข่ แต่ก็ต้องมีการกักขัง มีการเบียดเบียน
แล้วเมื่อมันถึงเวลาหยุดการให้ไข่ ไก่นั้นก็จะต้องถูกฆ่าเป็นอาหารแน่นอนตามหลัก
ของการการเลี้ยงไก่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะคงไม่เลี้ยงดูให้อาหารมันจนหมดอายุขัย
นั่น ก็ชัดเจนอยู่ว่า พระระดับผู้ใหญ่ต้องมีการรับรู้ จะบอกว่าไม่รู้ ไม่ได้
ผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้ใด ต้องสืบสาวกันถึงที่สุด รับรองว่า ไม่ใช่แค่ระดับ
เล็กๆ ต้องไล่ขึ้นไปตั้งแต่ เจ้าอาวาส ครูโรงเรียนที่ดูแล และพระระดับสูงๆขึ้นไป
สรุป บาป