ชีวิตสัตว์ทั้งหลายเนื่องอยู่ด้วยบุญกรรมบาปกรรม : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ทุกคนนะถ้ารู้ว่าตนน่ะยังบรรลุนิพพานยังไม่ได้
ก็พยายามสร้างสวรรค์ ให้เกิดขึ้นในใจของตนไปก่อน อย่าไปสร้างนรกขึ้นมา
เมื่อสร้างสวรรค์ให้เกิดขึ้นแล้ว นรกมันก็ดับไป นั่น..อย่างนี้แหละ
ทีนี้เมื่อจิตใจนี้มีคุณธรรมของเทวดาเป็นเครื่องอยู่แล้วมันก็มีสติมีปัญญา
พิจารณาธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ นี้ก็เห็นแจ้งประจักษ์ขึ้นมาอย่างนี้แหละ
เมื่อปัญญามันแก่กล้าขึ้นแล้ว อ้าวมันก็จะมองเห็นเลยบัดนี้ว่า
แม้รูปร่างของเทวดาเทวบุตรอยู่บนสวรรค์นั้นถึงแม้จะสวยจะงามจะละเอียดประณีตอย่างไร
มันก็ไม่เที่ยงอยู่ดีๆนี่ล่ะ เพราะเหตุปัจจัยที่ไปแต่งให้เป็นเทวบุตรเทวดานั้น
ก็คือ บุญกุศล อันเป็นส่วน “โลกียธรรม” นี้เองแหละ บุญกุศลเหล่านี้มันก็มีขอบเขตจำกัด
เมื่อมันไปแต่งให้แล้วมันก็อำนวยความสุขความสบายให้ไป
ตามกำลังของบุญนั้นจะพึงอำนวยให้ไปได้ ไปๆบุญเหล่านั้นมันหมดลงเป็นทีนี้
ชีวิตของมนุษย์ก็ดี เทวดาก็ดี ท่านอุปมาไว้เหมือนตะเกียงและโคมไฟ
อาศัยน้ำมันกับไส้เมื่อจุดไฟเข้าไฟก็ลุกโพลง เมื่อนานๆไปไส้มันก็สั้นลงไป
น้ำมันก็หมดลงไป ในที่สุดเมื่อน้ำมันหมด ไฟก็ดับวูบลงทันที
อันนี้ฉันใดชีวิตสัตว์ทั้งหลายก็เนื่องอยู่ด้วยบุญกรรมบาปกรรม
เมื่อบุญนั้นหมดลงเมื่อใด ชีวิตนี้ก็ดับลงเมื่อนั้น
ดับแต่ “ร่างกาย”นะ “จิตนี้เมื่อมีอุปาทานอยู่มันก็ไม่ดับ” เมื่อมีอุปาทานอยู่มันก็เป็นตัวกรรมบัดนี้
เอ้า..ตัวกรรมนั้นก็นำไปอีก นำไปเกิดในภพอื่นอีกต่อไป
เออ..มันเป็นอย่างนั้นเรื่องมันน่ะ